จะทำอย่างไร? เมื่อโรค “ข้อสะโพกเสื่อม” มาเยือนน้องหมา

0 0
Read Time:3 Minute, 1 Second

เหล่าคนรักหมาคงจะเคยได้ยินเกี่ยวกับโรค “ข้อสะโพกเสื่อม” (Hip dysplasia) มาแล้วบ้าง จะทำอย่างไรดี? เมื่อโรค “ข้อสะโพกเสื่อม” มาเยือนเจ้าตูบของเรา ซึ่งพบได้ในสุนัขทุกสายพันธุ์ ไม่ว่าจะสุนัขพันธ์เล็กหรือพันธุ์ใหญ่ รวมไปถึงแมว ก็สามารถเป็นได้เช่นกัน ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของการเจริญของข้อต่อบริเวณสะโพก และก่อให้เกิดการเสื่อมของข้อต่อตามมาได้ในอนาคต

น.สพ.บูรพงษ์ สุธีรัตน์ (หมอตั๋ง) สัตวแพทย์แผนกระบบกระดูกและข้อต่อโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน ให้คำแนะนำวิธีการรักษามีทั้งวิธีที่ต้องผ่าตัดและแบบที่ไม่ต้องผ่าตัด การพิจารณาเลือกวิธีการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค อายุ และสุขภาพของสุนัข ซึ่งจะมีการแบ่งลักษณะอาการร่วมกับการเอ็กซเรย์เพื่อวินิจฉัยว่าปัญหาเกิดจากส่วนไหน โดยวิธีรักษามี 2 วิธี ดังนี้

1.การกินยา

การรักษาด้วยวิธีนี้ สุนัขจะได้ยาลดปวด ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดจากอาการของเขาได้ หลังจากทานยาเจ้าของควรสังเกตว่าน้องหมาเดินได้ดีขึ้นไหม หรือทำกิจกรรมอื่นเป็นอย่างไร ถ้าเขาดีขึ้นอาจใช้วิธีอื่นร่วมประกอบในการรักษาด้วย เช่น ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย ควบคุมปริมาณอาหาร ฯลฯ กล้ามเนื้อจะแข็งแรงขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด และถ้าเจาตูบไม่อยากเดินออกกำลังกาย ก็สามารถพาว่ายน้ำแทนได้ อาการต่าง ๆ ก็จะดีขึ้น ถ้าให้ยาควบคู่กับการออกกำลังกายแล้วดีขึ้น น้องหมามีการเคลื่อนไหวที่มากขึ้นก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด

2.การผ่าตัด

หากให้ยาแล้วไม่ดีขึ้นในสิบวันหรือสองอาทิตย์ การผ่าตัดจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ดูแล โดยจะมีวิธีผ่าตัด 2 แบบ คือ

–          ผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก

เพื่อทำให้การรับน้ำหนักและการใช้ขาของสุนัขกลับมาเป็นปกติ จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและช่วยให้น้องหมาเคลื่อนไหวหรือเดินได้สะดวกขึ้น วิธีนี้จะเห็นผลภายใน 2-3 วัน หลังผ่าตัด แต่ข้อเสียคือเจ้าของต้องดูแลเยอะหลังผ่าตัดในช่วงเดือนแรกและค่าใช้จ่ายสูง

–          ผ่าตัดหัวกระดูกออก

วิธีนี้อนุโลมให้สุนัขที่หนักน้อยกว่า 17 กิโลกรัมเท่านั้น เนื่องจากสุนัขต้องใช้กล้ามเนื้อสะโพกในการรับน้ำหนัก หากกล้ามเนื้อน้องหมาไม่แข็งแรงก็อาจจะเดินยากหรือเดินไม่ได้ หลังผ่าตัดจึงต้องพาน้องมาทำกายภาพเพื่อให้เขาใช้ขาได้เร็วที่สุด หากผ่าตัดวิธีนี้จะไม่สามารถบอกได้ว่าสุนัขจะใช้ขาเดินได้เมื่อไหร่ เพราะผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับการดูแลและการทำกายภาพบำบัด

หลังจากรักษาด้วยการผ่าตัด ในช่วงเดือนแรกเจ้าของไม่ควรให้น้องหมาวิ่งหรือกระโดด อาจพาเขาเดินได้สั้น ๆ เมื่อกล้ามเนื้อทั้งหมดเริ่มมั่นคงจึงค่อยปล่อยให้เขาได้เดินหรือใช้ชีวิต อีกทั้งเจ้าของสุนัขควรมีการควบคุมน้ำหนักตัว ควบคุมปริมาณอาหาร และพาเขาออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เช่น ว่ายน้ำ เดินเล่น ฯลฯ ซึ่งการทำกายภาพบำบัดร่วมกับการออกกำลังกายจะช่วยสุนัขเคลื่อนไหวได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกลุกนั่ง การกระตุ้นไฟฟ้า การนวดอัลตร้าซาวด์ หรือการเลเซอร์ลดความเจ็บปวด ข้อดีของการรักษาโดยการกายภาพบำบัด คือ เป็นวิธีที่มีผลข้างเคียงน้อย สามารถลดความเจ็บปวดได้ดี ทำให้สุนัขกลับมาเดินได้ดีอีกครั้งและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-887-8321-3, Facebook : https://www.facebook.com/talingchanpetfanpage หรือทาง Line :  @Talingchanpet หรือ https://www.talingchanpet.net/  <>

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

%d bloggers like this: