สสว. แถลงข่าว “งานพัฒนาสิทธิประโยชน์และผลักดันให้เกิดขึ้นจริงเพื่อการประกอบการ”
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) แถลงข่าว “งานพัฒนาสิทธิประโยชน์และผลักดันให้เกิดขึ้นจริงเพื่อการประกอบการ” บูรณาการความร่วมมือเชื่อมโยงเครือข่ายภาครัฐและเอกชน ผลักดันสิทธิประโยชน์ผู้ประกอบการ เพิ่มผลิตภาพ/ลดต้นทุน ขยายช่องทางการตลาด และเชื่อมโยงแหล่งเงินทุน
นายวชิระ แก้วกอ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เป็นประธานในงานแถลงข่าว “งานพัฒนาสิทธิประโยชน์และผลักดันให้เกิดขึ้นจริงเพื่อการประกอบการ” โดยมีผู้แทนหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและเอกชน ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชน ร่วมงาน ณ เวทีกลางงาน SME-GP Day อาคาร 6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี
นายวชิระ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วย มีผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากมาตรการต่างๆ ที่สืบเนื่องจากการระบาดเป็นจำนวนมาก รัฐบาลตระหนักถึงความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าไปช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ในยุค New Normal และ Next Normal และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. ซึ่งมีพันธกิจในการบูรณาการ และผลักดันการส่งเสริม MSME ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อให้ MSME สามารถเติบโตและแข่งขันได้ในระดับสากล จึงได้สนองรับแนวทางของรัฐบาลด้วยการบูรณาการความร่วมมือและเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ในการส่งเสริมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับ MSME ในมิติต่างๆ นำมาสู่ “งานพัฒนาสิทธิประโยชน์และผลักดันให้เกิดขึ้นจริงเพื่อการประกอบการ”
รอง ผอ.สสว. กล่าวต่อว่า สสว. ได้เดินหน้างานพัฒนาสิทธิประโยชน์ ผ่านการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU กับหน่วยงานพันธมิตร มุ่งเน้นการผลักดัน 3 เรื่องสำคัญให้แก่ผู้ประกอบการ ได้แก่ การเพิ่มผลิตภาพ/ลดต้นทุน อาทิ Bank of China (Thai) PCL. ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
การขยายช่องทางการตลาด อาทิ บริษัท เทลสกอร์ จำกัด มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย TikTok Pte Ltd. บริษัท เจนโทเซีย จำกัด บริษัท เฟเวอร์ลี่ จำกัด บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท อินโนเทค ลาบอราทอรี่ เซอร์วิส จำกัด บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) บริษัท สวัสดีช้อป จำกัด บริษัท คลาวดี เทเลคอม จำกัด บริษัท ออฟฟิศเมท (ไทย) จำกัด และบริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด
การเชื่อมโยงแหล่งเงินทุน อาทิ ธนาคารออมสิน และธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)
“สสว. และ หน่วยงานพันธมิตรจะร่วมมือกันใช้ศักยภาพความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ในการสนับสนุน ส่งเสริม ผู้ประกอบการทั้ง 3 ด้าน โดยมุ่งเป้าไปที่การแก้ไขปัญหาอุปสรรคให้แก่ผู้ประกอบการ พร้อมทั้งหนุนเสริมให้เกิดการพัฒนาให้ครบทุกด้าน โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการได้รับการสนับสนุนด้านการเพิ่มผลิตภาพ/ลดต้นทุน 753 ราย ด้านการขยายช่องทางการตลาด 3,254 ราย การเชื่อมโยงแหล่งเงินทุน 20 รายรวมทั้งสิ้น 4,027 ราย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้วกว่า 424.68 ล้านบาท จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปที่สนใจ ลงทะเบียนเข้ารับบริการกับ สสว. ผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ https://members.sme.go.th/newportal โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อรับข่าวสารและสิทธิประโยชน์ต่างๆ พร้อมเดินหน้าปรับตัวเข้าสู่ธุรกิจยุคใหม่ เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ให้มีความเข้มแข็ง และเติบโต ได้อย่างยั่งยืนต่อไป” รองผู้อำนวยการ สสว. กล่าว