ฝึก “กาย-จิต” ให้แข็งแรงรับเทรนด์ Self-Care First
กำลังมาแรงมากในยุคนี้ สำหรับเทรนด์รักตัวเองหรือ “Self-Care First” เพราะโควิด-19 ทำให้เรารู้ว่าการดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่ดีกว่าการเก็บเงินไว้เพื่อรักษาตัวเองในอนาคต เพราะหลายคนมองว่าการพบแพทย์แบบไม่มีประกันนั้นมีค่าใช้จ่ายสูง และการไปโรงพยาบาลบ่อยๆ ก็มีความเสี่ยงที่จะพบเจอเชื้อโรคต่างๆ อีกมากมาย จึงเริ่มหันมาดูแลสุขภาพของตัวเองกันอย่างจริงจัง เจนเนอราลี่ จึงขอแนะนำทริกการดูแลสุขภาพฝึก “กาย-จิต” ให้แข็งแรงเสริมความแกร่งให้สุขภาพ
เริ่มที่การดูแล “กาย” หรือร่างกายของเรา มีผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายท่านพูดว่าการจะดูแลร่างกายให้แข็งแรงแบ่งออกเป็น 2 เรื่อง คือการรับประทานอาหารที่มีความสำคัญถึง 70% และอีก 30% คือการออกกำลังกาย และแน่นอนว่าหลายคนมักจะถอดใจกับสิ่งนี้ เพราะการทำอะไรซ้ำๆ วนไปมา ทำให้เราเบื่อได้ ดังนั้น ทริกการออกำลังกายให้ได้ผล ควรหาวิธีการออกกำลังกายใหม่ ๆ เพื่อให้เกิดความสนุกและตื่นเต้น
หยินโยคะ (Yin Yoga) ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการออกกำลังกายที่กำลังมาแรง เน้นการโยคะแบบช้า ๆ ค้างท่าไว้ประมาณ 3-5 นาที มีความนิ่งขณะทำท่า และการยืดเหยียด เพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อให้ดีขึ้น เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และผู้มีประสบการณ์ ท่าโยคะง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง เช่น Downward Facing Dog, Warrior Pose และ Tree Pose เป็นต้น
Ballet Barre และคาร์ดิโอแบบฟิวชัน (Ballet Barre & Cardio Fusion) อีกหนึ่งทางเหลือสำหรับคนที่มองหาความแปลกใหม่ให้กับการออกกำลังกาย เพราะนี่คือสุดยอดคลาสที่ผสมผสานส่วนที่ดีที่สุดของการออกกำลังกายเข้าด้วยกัน โดยดึงศาสตร์ด้าน Ballet Barre การใช้กล้ามเนื้อของนักบัลเลต์ที่สวยงามมาประยุกต์เข้ากับอุปกรณ์ออกกำลังกายต่าง ๆ อย่าง บาร์บัลเลต์ ลูกบอลยาง และดัมเบล บวกกับการคาร์ดิโออย่างรวดเร็ว เป็นการออกกำลังกายที่สร้างความเพลิดเพลิน ช่วยกระชับกล้ามเนื้อ เพิ่มความยืดหยุ่น และทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น
ต่อยมวย (Boxing) การออกกำลังยอดฮิตตลอดการ เหมาะสำหรับคนที่อยากออกกำลังกายหนัก ๆ ซึ่งการชกมวยถือเป็นอีกหนึ่งการออกกำลังกายที่จะทำให้เราไม่เบื่อ เพราะมีคู่ซ้อมที่ค่อยเพิ่มความสนุกในทุก ๆ การออกกำลัง
เมื่อร่างกายแข็งแรง “จิต” ภายในของเราก็ต้องแข็งแรงด้วย เพราะกายกับจิตทำงานควบคู่กันเสมอ “การทำสมาธิ” ถือเป็นวิธีฝึกจิตที่ง่าย เพราะในหนึ่งวันคนเราสามารถมีความคิดมากมายได้ถึง 50,000 ความคิด จึงไม่แปลกที่การจัดการความยุ่งเหยิงในจิตใจเป็นสิ่งที่ยาก การทำสมาธิจึงเป็นทางออกที่ดีและเป็นผลดีต่อสุขภาพจิตหลายด้าน ทั้งจะช่วยให้เรา ฉลาดมากขึ้น ช่วยลดความเครียด ทำให้ผ่อนคลาย ลดการกระตุ้นให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ อีกทั้งช่วยให้ การนอนหลับดีขึ้น เพราะจิตใจสงบ อยู่กับปัจจุบัน ความคิดจะไม่ฟุ้งซ่าน และปลอดโปร่ง รวมถึง ยืดอายุสมอง จากการศึกษาแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างการทำสมาธิและอายุการทำงานของสมอง ที่สามารถช่วยปกป้องการเสื่อมถอยของสติปัญญาได้ จึงถือว่าการทำสมาธิเป็นการออกกำลังกายสมองอย่างหนึ่ง ดังนั้นลองสละเวลาสัก 10-15 นาที ต่อวัน นั่งสมาธิ อาจจะเป็นช่วงพักกลางวัน หรือช่วงก่อนนอน
การมีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ ช่วยให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น ซึ่งแต่ละคนสามารถมี Self-Care ที่แตกต่างกันได้ รวมถึงต้องมั่นใจว่ามีแผนประกันสุขภาพดี ๆ ที่พร้อมจะดูแลคุณได้อย่างเต็มที่กับทุกการทำกิจกรรม เพื่อคุ้มครองและดูแลในระยะยาว สามารถศึกษาแผนประกันได้ที่เว็บไซต์ เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ และติดตามบทความเนื้อหาสาระดี ๆ ด้านสุขภาพ และเคล็ดลับการวางแผนสร้างหลักประกันในชีวิตได้ที่ Gen Healthy Life