SCB 10X ประกาศร่วมลงทุนต่อเนื่องใน “MyCloudFulfillment”
0
0
เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) บริษัทโฮลดิ้งคอมพานีในเครือธนาคารไทยพาณิชย์เดินหน้าลงทุนในบริษัทเทคโนโลยี และสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดประกาศเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนในการระดมทุนรอบ Series B ของ MyCloudFulfillment ผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์ชั้นนำของประเทศไทย ร่วมกับ JWD ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับอาเซียน ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการวางรากฐานด้านระบบนิเวศทางเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งในทุกมิติให้กับสังคมไทยที่จะช่วยให้สตาร์ทอัพไทยสามารถแข่งขันและเติบโตได้ในระดับภูมิภาคอย่างแข็งแกร่ง
นางมุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า “SCB 10X มีความยินดีและตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนของ MyCloudFulfillment สตาร์ทอัพชั้นนำที่ให้บริการด้านคลังสินค้าออนไลน์ครบวงจรของประเทศไทย ตั้งแต่การระดมทุนในรอบ Series A เมื่อปีที่ผ่านมา โดยเรายังคงให้การสนับสนุนต่อเนื่องในการระดมทุนรอบ Series B ร่วมกับ JWD ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับอาเซียน และจากสถานการณ์โควิด-19 เราพบว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีการนำเอาดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามาผสานกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในปัจจุบัน รวมถึงการนำมาปรับใช้ในเรื่อง Digital Transformation ขององค์กรต่าง ๆ อีกด้วย โดยในช่วงสองปีที่ผ่านมาเราเห็นถึงการเพิ่มขึ้นของโซเชียลคอมเมิร์ซและอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้คนหันมาใช้บริการออนไลน์กันมากขึ้น ดังนั้น สตาร์ทอัพที่สามารถให้บริการด้าน fulfillment และโลจิสติกส์ จะยังคงได้รับประโยชน์อย่างมากจากการเติบโตนี้”
“MyCloudFulfillment ผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์ครบวงจรแบบไร้รอยต่อ ด้วยบริการที่ครอบคลุมด้านคลังจัดเก็บสินค้า แพ็คสินค้า การสั่งซื้อแพ็กเกจจิ้ง และจัดส่งสินค้าให้กับธุรกิจโซเชียลคอมเมิร์ซ อีคอมเมิร์ซ และ Omnichannel จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของโซเชียลคอมเมิร์ซและอีคอมเมิร์ซในปัจจุบัน นอกจากการสนับสนุนผ่านการลงทุนในการระดมทุนรอบ Series B แล้ว เรายังคงมีแผนในการพัฒนาโซลูชันต่าง ๆ ร่วมกัน เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ด้านโซเชียลคอมเมิร์ซในอนาคต เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ประกอบการรวมถึงลูกค้าอีกด้วย” นางมุขยา กล่าวเสริม
นายนิธิ สัจจทิพวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง MyCloudFulfillment หรือ บริษัท อี-เอ็มพาวเวอร์เมนท์ จำกัด กล่าวว่า “MyCloudFulfillment เป็นคลังสินค้าออนไลน์ที่เหมาะที่สุดสำหรับร้านที่ขายของหลายช่องทาง เราเชื่อมต่อกับช่องทางการขายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Marketplace, Website CMS, Live commerce และ อื่น ๆ นอกจากการเชื่อมต่อ API แล้ว ระบบของเรายังมีฟีเจอร์ต่าง ๆ สำหรับช่วยการขายให้เป็นไปตามอัตโนมัติ เช่น การจัดเซ็ตเสมือน การจัดการโปรโมชั่น เป็นต้น อีกทั้งบริการของเรายังสามารถปรับตามความต้องการและลักษณะเฉพาะของแต่ละร้านค้าได้ด้วย ไม่เพียงแค่นั้นคลังสินค้าของเรายังมีความยืดหยุ่น ในการรองรับออเดอร์ที่มีความผันผวนสูง อย่างไรก็ตามเป้าหมายของบริษัทไม่ได้หยุดอยู่ที่แค่บริการด้านคลังสินค้า เป้าหมายสูงสุดของเราคือการเป็นผู้ช่วยคนสำคัญสำหรับธุรกิจออนไลน์ เรามีความเชื่อเสมอมาตั้งแต่ตั้งต้นว่า ทุกๆ อย่างที่เราทำ เราต้องการทำให้ธุรกิจออนไลน์จัดการร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพและเติบโตได้อย่างยั่งยืน ณ วันนี้เราช่วยเหลือลูกค้าของเราด้านการบริหารการจัดการคลังสินค้า แต่สิ่งที่เราต้องการทำต่อไปคือการช่วยลดเงินจมในสต๊อก และช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย ซึ่งเราจะสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ผ่านการใช้ข้อมูลของร้านค้านั้นๆ มาวิเคราะห์อย่างละเอียด หนึ่งในสิ่งที่ทีมพัฒนาของเราพัตนาเพื่อใช้ในปีหน้าคือ Inventory Intelligence ด้วย Machine Learning โดยเริ่มจากการเก็บข้อมูลผู้บริโภคในเชิงลึกและพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของสต๊อกสินค้าในระบบของแต่ละร้านค้า นำไปสู่การวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้ออกมาเป็นข้อมูลสำคัญที่เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจสำหรับธุรกิจ เช่น สินค้าชิ้นไหนควรเก็บมากขึ้นหรือน้อยลง สินค้าชิ้นไหนขายแล้วมีกำไรหรือขาดทุน รูปแบบการขายชนิดนั้นที่สร้างยอดขายให้กับสินค้าชนิดไหน เป็นต้น”
ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา MyCloudFulfillment มียอดออเดอร์เติบโตอย่างต่อเนื่องสูงสุดต่อเดือนถึง 300,000 ออเดอร์ ซึ่งเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันเมื่อปีทีแล้วกว่า 3 เท่า และได้มีการขยายคลังสินค้าจากเดิม 2 แห่ง ที่ลาดกระบัง และ รังสิต พื้นที่รวมกว่า 10,000 ตารางเมตร สู่คลังสินค้าที่ 3 แห่งใหม่ที่มีนบุรี พื้นที่รวมกว่าอีก 6,500 ตารางเมตร ผ่านการร่วมมือกับ JWD Group โดยคลังสินค้าแห่งใหม่นี้จะสามารถรองรับออเดอร์ได้สูงสุดถึงวันละ 30,000 ออเดอร์ ล่าสุด MyCloudFulfillment ยังได้รับรางวัลมากมายไม่ว่าจะเป็น รางวัลเกียรติคุณ ในงานรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2564 ด้านองค์กรนวัตกรรมดีเด่น ประเภทองค์กรภาคเอกชนขนาดกลาง, รางวัล Bai Po Business Awards by Sasin รวมถึงยังเป็น 1 ใน 2 สตาร์ทอัพของไทย ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น Forbes Asia 100 To Watch ในปีนี้อีกด้วย
“นอกการได้รับการสนับสนุนทางการเงินในรอบนี้ เรายังสามารถนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินของ SCB มาใช้เพื่อช่วยสร้างความสะดวกให้กับลูกค้าของเราได้ เช่นการระบบช่วยสภาพคล่องทางการเงินของผู้ซื้อและผู้ขาย (PayZave) หรือ การเชื่อมต่อ QR payment เข้ากับการไลฟ์ขายของ รวมไปถึงการเชื่อมต่อการจัดการสต๊อกเข้ากับบริษัทในเครือของ SCB เช่น Robinhood อีกด้วย ด้านพาร์ทเนอร์ด้านโลจิสติกส์อย่าง JWD จะเป็นส่วนช่วยในการขยายศักยภาพการรองรับลูกค้า การสร้างคลังสินค้า และขยายบริการให้ครอบคลุมอุตสาหกรรมทุกภาคส่วนได้มากยิ่งขึ้น เราจึงมั่นใจว่าการสนันสนุนจาก SCB 10X และ JWD จะส่งเสริมให้ MyCloudFulifllment เติบโตและขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนได้อย่างมั่นคง” นายนิธิกล่าวเสริม
SCB 10X announces new investment in leading e-commerce fulfillment solution startup “MyCloudFulfillment”, empowering local startups to regional growth
SCB Group’s technology holding company SCB 10X continues investing in tech companies and startups worldwide, demonstrating its commitment towards innovation and exponential growth. Recently the Company announced its participation in the series B fundraising round of MyCloudFulfillment, a leading Thai one-stop e-commerce fulfillment solution startup. The series B round is led by JWD, a regional logistics and supply chain group. The move reaffirms SCB 10X’s commitment to laying a solid technology ecosystem foundation for Thailand, promoting high potential Thai startups to compete and grow its foothold regionally.
“According to SCB 10X Chief Venture and Investment Officer, Mukaya (Tai) Panich, “SCB 10X is excited to announce our participation in the series B fundraise of MyCloudFulfillment, led by JWD. We are proud to be an investor in MyCloudFulfillment since series A, and continue our support in series B. COVID-19 has accelerated the adoption towards digital lifestyle by consumers and digital transformation by corporates. In the past 2 years, we have seen the rapid rise of social commerce and e-commerce in Southeast Asia, as more people go online. Startups that enable social commerce and e-commerce like fulfillment and logistics firms will continue to greatly benefit. MyCloudFulfillment, a seamless one-stop fulfillment provider, offering inventory storage, order packaging, and last mile delivery to e-commerce, social commerce and omnichannel businesses, is a key critical enabler of today’s social commerce and e-commerce trends. As a payment partner of MyCloudFulfilment, we are looking forward to continue to work closely together.”
MyCloudFulfillment CEO and Co-founder Nithi Satchatippavarn added, “As a one-stop supply chain management solution for e-commerce, MyCloudFulfillment best suits omni-channel stores. We connect multiple sales channels such as marketplaces, CMS websites, live commerce, and others. In addition to API connectivity, our system also includes features to help automate sales, such as bundled arrangements, promotion management, and other features. Our services can also be tailored to the needs and characteristics of each store. Apart from that, our warehouse is flexible to accommodate highly volatile orders. However, the Company’s goal doesn’t stop at warehousing services. Our ultimate goal is to serve as an important enabler for online businesses. From the beginning, we’ve always believed that in everything we do we want to enable online businesses manage their stores efficiently so that they can achieve sustainable growth. Today we are enabling our customers with warehouse management. However, what we are keen to do next is to enable to reduce their costs for dormant stocks and increase sales opportunities. We will be able to do so by turning merchant databases into data analytics. One of the tasks that our development team plans to implement next year is to embrace machine learning to create inventory intelligence, starting from collecting in-depth consumer data and stock movement behavior for each store. This analytics process will transform that data into strategic information useful for decision making, allowing sellers to adjust stocks based on demand, identify unprofitable and profitable products, and implement suitable sales models for particular products.”
MyCloudFulfillment reported its highest growth so far during the first half of this year, with 300,000 orders received per month, more than triple the growth reported over the same period last year. Through collaboration with the JWD Group its warehouses have expanded from two original locations at Lat Krabang and Rangsit with a total area of over 10,000 square meters to a new third warehouse in Minburi with a total area of over 6,500 square meters. The new warehouse will have the capacity to accommodate up to 30,000 orders per day. MyCloudfulfillment is proud to have received many awards from various institutions, such as the National Innovation Award 2021 in the category of Outstanding Innovative Organization given to medium-sized private enterprises, the Bai Po Business Awards by Sasin, and we were also one of two homegrown startups selected as this year’s Forbes Asia 100 To Watch.
“Apart from financial support in this fundraising round, we are hoping to bring SCB’s financial products to increase convenience for our customers, such as the PayZave system to boost liquidity for both buyers and sellers or connecting QR payment to live streaming commerce, the live sale of goods, or connecting stock management with SCB affiliates such as Robinhood. MyCloudFulfillment’s logistics partners like JWD will boost its capability to increase customer numbers, build more warehouses and expand services spanning many industries. We are very confident that support from SCB 10X and JWD will promote MyCloudFulifllment’s stable growth and expansion in the ASEAN region,” added Nithi Satchatippavarn.
