สยามพารากอนชวนชิมเมนูพิเศษโดย 5 ร้านดัง ที่รังสรรค์ด้วยวัตถุดิบระดับเลิศจากมูลนิธิโครงการหลวง
มูลนิธิโครงการหลวง ร่วมกับศูนย์การค้าสยามพารากอน และกูร์เมต์ มาร์เก็ต จัดงาน “Royal Project Gastronomy Festival 2023 @ Siam Paragon” (รอยัล โปรเจ็คต์ แกสโตรโนมี เฟสติวัล 2023 แอท สยามพารากอน) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Wondrous Taste of Superfood” (เดอะ วันเดอรัส เทสต์ ออฟ ซูเปอร์ฟู้ด) คัดสรรวัตถุดิบระดับซูเปอร์มาสเตอร์จากยอดดอย ที่จะสร้างสรรค์คุณค่าของมื้ออาหารให้กลายเป็นเมนูสุดมหัศจรรย์
พร้อมกันนี้ สยามพารากอน ตอกย้ำความเป็น World-class Food Destination ยกขบวนร้านอาหารชั้นนำร่วม 20 ร้าน มาร่วมรังสรรค์เมนูเลิศรสในงาน Royal Project Gastronomy Festival 2023 @ Siam Paragon หยิบยกเมนูจาก 5 ร้านดังมาให้ได้ลิ้มลอง
เริ่มต้นกันที่ร้าน Tasty Congee & Noodle Wantun Shop (เทสตี้ คอนจี้ แอนด์ นู้ดเดิ้ล วันตัน ช็อป) ชั้น G ใกล้กลับทางออกไปโรงแรมสยมเคมปินสกี้ นำเสนอ 3 เมนูน่าลิ้มลอง ได้แก่
บะหมี่แห้งเกี๊ยวกุ้ง (280 บาท) ที่เลือกใช้ผักเบบี้ฮ่องเต้จากโครงการหลวงมาเป็นวัตถุดิบในการรังสรรค์เมนู โดยเส้นบะหมี่มีความเหนียวนุ่มกำลังดี และมีทีเด็ดอยู่ที่เกี๊ยวกุ้งรสชาติกลมกล่อม
ต่อด้วย 2 เมนูแนะนำที่ห้ามพลาดเพราะมีการนำเอาพริกหวานจากโครงการหลวงมาเติมสีสันและความอร่อย คือ ผัดเปรี้ยวหวานหมู (360 บาท) เมนูนี้รสชาติเข้มข้น ถูกปากคนไทย
และ เส้นใหญ่ฮ่องกงราดหน้าเนื้อเต้าซี่ (360 บาท) มีทีเด็ดที่เนื้อหมักเหนียวนุ่มพอเหมาะ รับประทานคู่กับเส้นใหญ่สูตรพิเศษของทางร้าน
ร้านที่สอง Suki Masa (สุกี้ มาสะ) มาพร้อม 3 เมนูพิเศษ ได้แก่ ชุดผักโครงการหลวง เสิร์ฟคู่กับ Sukiyaki Set และ Shabu Shabu Set (150 บาท) ทีเด็ดคือน้ำซุปชาบูของทางร้านที่ไม่ว่าจะรับประทานกับเนื้อสัตว์ หรือผักต่างๆ ก็เข้มข้น เข้าเนื้อ ประทับใจ
ต่อด้วยเมนู Kinoko Moriawase Tempura (180 บาท) เมนูนี้คัดสรรเห็ดรวมจากโครงการหลวงมาเป็นวัตถุดิบหลักในการรังสรรค์ได้อย่างน่าสนใจ
อีกหนึ่งเมนูความอร่อยที่สายเฮลท์ตี้ต้องชื่นชอบกับ เมนูสลัดสตรอเบอร์รี่และมะเขือเทศ (300 บาท) ที่นำเอาสตรอเบอร์รี่พันธุ์ 80 (2) มาผสานกับส่วนผสมต่างๆ ได้อย่างลงตัว และวันที่เราไปรับประทานนั้น สตรอเบอร์รี่สุกเต็มที่ ได้รสชาติหวานหอมถึงใจ
ถัดมาที่ร้าน Veganerie (วีแกนเนอรี่) ร้านนี้บอกเลยว่าต้องถูกใจสายวีแกน เพราะทางร้านนำมันฝรั่งจากโครงการหลวงมารังสรรค์เมนู Beyond Meat Steak (390 บาท) สเต็กวีแกนที่อร่อยจนต้องติดใจ
นอกจากนี้ยังมีเมนูทานเล่นและรับประทานง่ายอย่าง Baked Carrot Fries with Avocado Dip (220 บาท) ที่เลือกใช้ แครอทจากโครงการหลวงมาเป็นวัตถุดิบหลัก นอกจากความอร่อยที่น่าประทับใจแล้ว ก็ถือว่าเป็นจานที่รับประทานได้ไม่มีเบื่อกันเลย
มาถึงร้านที่สี่ TalingPling (ตะลิงปลิง) รังสรรค์เมนูพิเศษ 3 เมนูได้แก่ ขนมปังหน้าหมู ผักดองสามรส (190 บาท) เลือกใช้ แตงกวาญี่ปุ่น หัวไชเท้า แรดิช และแครอท จากโครงการหลวงมาเป็นส่วนผสมหลักในการรังสรรค์
ต่อด้วยเมนูที่นำข้าวโพดหวานจากโครงการหลวงถ่ายทอดรสชาติออกมาได้ไม่ซ้ำใครอย่างเมนู กระทงทองข้าวโพดหวาน (155 บาท) และขนมข้าวโพดห่อกาบ ไอศกรีมกะทิป๊อป คอร์นคาราเมล (155 บาท)
ปิดท้ายกันที่เมนูขนมหวานจากร้าน Brix Dessert Bar (บริกซ์ ดีเสิร์ต บาร์) นำเสนอเมนูของหวานเลิศรส Royal Supreme Miracle Pancake (345 บาท) ที่ได้สตรอเบอร์รี่พันธุ์ 80 (2) และ เคพกูสเบอรี่ จากโครงการหลวงมาเป็นตัวชูรสชาติให้ขนมหวานจานนี้อร่อยลงตัว
นอกจากนี้ยังมีความพิเศษอีกอย่างคือ เมื่อรับประทานอาหารเมนูที่ใช้วัตถุดิบจากโครงการหลวง ณ ร้านที่ร่วมรายการ ครบ 800 บาท รับน้ำผลไม้ดอยคำ ฟรี 1 แพค ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2566
#SiamParagon #RoyalProjectGastronomyFestival2023