Nothing ยกระดับไปอีกขั้นด้วย Phone (2a) Plus

September 5, 2024September 7, 2024 admin 0 Comments

Read Time:8 Minute, 41 Second

Nothing เปิดตัว Phone (2a) Plus สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ได้รับการคาดหวังอย่างสูง Phone (2a) Plus นั้นได้ยกระดับสมาร์ทโฟนรุ่นหลักที่ได้รับความนิยมที่สุดของ Nothing ด้วยการปรับปรุงในสามด้านที่สำคัญ อาทิ ประสิทธิภาพ, กล้อง, และดีไซน์ ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ที่มีเฉพาะในรุ่นนี้เท่านั้น มาพร้อมชิปเซ็ต MediaTek 7350 Pro 5G เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นและรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งระบบเซ็นเซอร์กล้องหน้าพร้อมความละเอียดที่ 50 MP เพื่อการถ่ายเซลฟี่อย่างสวยโดดเด่น อีกทั้งได้พัฒนาเฉดสีใหม่ สีเมทัลลิกเพื่อสะท้อนถึงสเปคที่เหนือกว่า

“หลังจาก Phone (2a) ได้ประสบความสำเร็จ ซึ่งทำให้ตลาดมีแรงกระตุ้นอันเนื่องมาจากสินค้าที่มีความแปลกใหม่นี้ และกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดของเรา เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเปิดตัว Phone (2a) Plus ที่ได้รับการอัปเกรดด้วยโปรเซสเซอร์ที่มีให้เฉพาะในรุ่นนี้เท่านั้น กล้องหน้าที่ได้รับการปรับปรุง และการออกแบบเฉดสีใหม่ที่เป็นสีเมทัลลิก และวางแผนที่จะเปิดตัว Phone (3) ในปี 2025 อีกด้วย สมาร์ทโฟนรุ่น Phone (2a) Plus จึงเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจ Phone (2a) แต่ต้องการประสิทธิภาพที่สูงยิ่งขึ้น” คาร์ล เพย์ CEO ของ Nothing กล่าว

ดีไซน์

Phone (2a) Plus เปิดตัวสองสีใหม่สำหรับสมาร์ทโฟนของ Nothing คือ สีเทาเมทัลลิกและสีดำที่ได้รับการอัปเดต การออกแบบในครั้งมาพร้อมกับการเคลือบผิวเมทัลลิกที่สะท้อนถึงเครื่องจักรนี้ ซึ่งนับเป็นการนำเสนอรูปแบบใหม่ของการออกแบบระดับพรีเมียมของ Nothing ในขณะเดียวกันก็เน้นการอัปเกรดที่ล้ำสมัยของ Phone (2a) Plus เช่นกัน

โดยการออกแบบในครั้งนี้ต่อยอดมาจาก Phone (2a) ดีไซน์ของ Phone (2a) Plus ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นจากการผสมผสานระหว่างเอกลักษณ์ของวิศวกรรมและศิลปะเข้าด้วยกัน โดยนำส่วนประกอบต่างๆ ให้เข้ากับส่วนภายนอกของโทรศัพท์ อีกทั้งรูปลักษณ์ที่คล้ายมนุษย์อีกด้วย โดยภายในกล้องประกอบไปด้วย ขดลวด NFC เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะสั้น เปรียบเสมือนดวงตาสองข้างที่อยู่แก่นกลางและบริเวณด้านหน้าของสมองเปี่ยมไปด้วยด้วยสติปัญญาและการสื่อสาร การออกแบบ circular grid system ที่ทำให้กล้องอยู่ในตำแหน่งที่เป็นศูนย์กลางนี้ โดยการออกแบบที่น่าหลงใหลและสอดคล้องกับดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ Phone (2a) Plus กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นในทันที

ประสิทธิภาพ

ความลับเบื้องหลังพลังของ Phone (2a) Plus คือชิปประมวลผลโปรเซสเซอร์ MediaTek Dimensity 7350 Pro 5G ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Nothing ที่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของความบันเทิงในชีวิตประจำวันของผู้คน ชิปเซ็ตนี้ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของเราเป็นฝันที่เป็นจริงสำหรับเกมเมอร์

โปรเซสเซอร์นี้มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย TSMC 4 nm Gen 2 มี 8 คอร์ ทำงานที่ความเร็วสูงสุดถึง 3.0 GHz ซึ่งเร็วกว่าซีพียูของ Phone (2a) เกือบ 10% การใช้งานหลายแอปพร้อมกันในชีวิตประจำวันจึงเป็นเรื่องง่ายดาย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ GPU ARM Mali-G610 MC4 ที่มีความเร็ว 1.3 GHz ซึ่งให้ประสิทธิภาพในการเล่มเกมเร็วขึ้น 30% เมื่อเทียบกับ Phone (2a)

นอกจากนี้เทคโนโลยี Smart Clean ของ Nothing ยังมีบทบาทสำคัญในการรักษาประสิทธิภาพสูง โดยจะล้างไฟล์ระบบที่ไม่ได้ใช้งานอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการปรับแต่ง NTFS เพื่อการถ่ายโอนไฟล์ที่รวดเร็วทันใจ และ RAM Booster ที่เพิ่มประสิทธิภาพของ RAM ได้สูงสุดถึง 20 GB

กล้อง

ตั้งแต่การเปิดตัว Phone (2a) ในเดือนมีนาคม ทีมงานของ Nothing ได้ปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์ถึงเจ็ดครั้ง ซึ่งมาพร้อมกับการปรับปรุงกล้องหลายด้าน การอัปเดตเหล่านี้ช่วยปรับแต่งประสบการณ์การถ่ายภาพให้ดียิ่งขึ้นโดยเพิ่มความแม่นยำของสี ความอิ่มตัวของสี และการปรับปรุงความสม่ำเสมอของสีให้เหมาะสม นอกจากนี้ยังปรับปรุงความแม่นยำของการเบลอ ความเร็วในการโหลดแอปกล้อง และประสิทธิภาพโดยรวมอีกด้วย

ยกระดับการถ่ายภาพไปอีกขั้นกับการเปิดตัวครั้งแรกของ Nothing ด้วยระบบกล้องสามตัวพร้อมความละเอียดสูงสุดที่ 50 MP กล้องเซลฟี่ของ Phone (2a) Plus สามารถบันทึกวิดีโอ 4K ได้ถึง 30 FPS ซึ่งเป็นการอัปเกรดฮาร์ดแวร์จากระบบเซ็นเซอร์ 32 MP ของ Phone (2a)

มาพร้อมกับเซ็นเซอร์หลักขนาดใหญ่ 50 MP ที่ดูดซับแสงได้ดี พร้อมเลนส์ f/1.88 เซ็นเซอร์อัลตร้าไวด์ 50 MP ที่มีมุมมองกว้าง 114º และกล้องหน้าความละเอียด 50 MP สำหรับการถ่ายเซลฟี่ที่สวยงามและวิดี โอคอลอย่างมีคุณภาพยิ่งขึ้น เซ็นเซอร์ทั้งสามตัวรองรับการถ่ายภาพ 50 MP โดยตรง การถ่ายภาพแบบ HDR และการบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K

กล้องหลักทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในสภาพแสงน้อย โดยภาพถ่ายกลางคืนจะมีรายละเอียดและสีสันที่สดใสไม่แพ้เวลากลางวัน สามารถบันทึกวิดีโอ 4K ที่สวยงามด้วยกล้องหลัก พร้อมการรองรับระบบป้องกันการสั่นไหวทั้งแบบออปติคัล (Optical Image Stabilisation) และแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electric Image Stabilisation) รวมถึงโหมดแอ็กชัน (Action Mode) เพื่อการบันทึกวิดีโอที่ราบรื่นแม้ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถอยู่นิ่งได้

เพื่อให้แน่ใจว่า Phone (2a) Plus มีภาพที่ครบเครื่อง Nothing ได้นำฮาร์ดแวร์ระดับสูงมาผสมผสานกับซอฟต์แวร์ที่ล้ำสมัย TrueLens Engine ของเรา พร้อมโหมด AI Vivid ใช้อัลกอริธึมขั้นสูงเพื่อสร้างภาพถ่ายที่มีความสมจริง สีสันสดใส และมีรายละเอียดครบถ้วน ฟีเจอร์ Ultra XDR ที่พัฒนาร่วมกับ Google ช่วยเพิ่มความสว่างของแสงในสภาวะที่ท้าทาย โดยปรับความสว่างของพิกเซลได้สูงสุดถึง 5 เท่า เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกภาพจะดูสมจริงทุกครั้งที่คุณกดปุ่มถ่าย

ฟีเจอร์เพิ่มเติม ได้แก่ Motion Capture สำหรับการถ่ายภาพที่ปราศจากความเบลอ, โหมดกลางคืน (Night Mode) เพื่อการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยที่ดียิ่งขึ้น, และ AI Portrait Optimiser สำหรับการถ่ายภาพกลุ่มที่ยอดเยี่ยม

Nothing OS และ AI

Nothing ได้ขยายคลังวิดเจ็ตด้วย Nothing OS 2.6 ที่มีประโยชน์มากขึ้น เพื่อให้หน้าจอโฮมและล็อกสกรีน ครบครันด้วยมุมมองแบบปัดได้และอนิเมชั่นที่แสดงข้อมูลในหลายระดับ

หลังจากการรวมกันกับ ChatGPT เมื่อต้นปี Nothing ได้พัฒนา News Reporter Widget ซึ่งเป็นการสรุปข่าวประจำวันโดยใช้เทคโนโลยี AI เพื่อรวบรวมข่าวรายวันในรูปแบบที่เรียบง่ายและเข้าใจง่าย โดยมี Tim Holbrow, CFO ของ Nothing เป็นผู้บรรยายข่าว วิดเจ็ตนี้มีให้ใช้งานบนสมาร์ทโฟน Nothing ทุกรุ่นผ่านแอป Nothing Widgets ใน Google Play Store

วิดเจ็ตนี้นำเสนอข่าวที่คัดสรรมาจาก 8 หมวดหมู่ที่เลือกได้ ได้แก่ ธุรกิจ, บันเทิง, ทั่วไป, สุขภาพ, วิทยาศาสตร์, กีฬา และเทคโนโลยี ระบบ AI จะสรุปข่าวจากแหล่งข่าวภาษาอังกฤษตามหมวดหมู่และแปลงเป็นเสียง เรื่องราวแต่ละเรื่องมีความยาว 1 นาที โดยมีทั้งหมด 8 เรื่องต่อวัน ทุกเช้า (ตามเวลาท้องถิ่น) วิดเจ็ตจะรีเฟรชโดยอัตโนมัติให้มีข่าวใหม่ หากต้องการข้ามเรื่องใด ๆ สามารถไปที่ Quick Settings Panel หรือ Media Player Widget News Reporter ทำงานได้ทันทีโดยไม่ต้องลงชื่อเข้าใช้ ต่างจากอุปกรณ์ส่วนใหญ่ในประเภทเดียวกัน Phone (2a) Plus มาพร้อมกับ Android 14 ในตัวและการันตีอัปเดตซอฟต์แวร์นานถึง 3 ปี และอัปเดตความปลอดภัยนานถึง 4 ปี

แบตเตอรี่และการชาร์จ

สำหรับคนที่ใช้ชีวิตเร่งด่วน Phone (2a) Plus มาพร้อมกับระบบชาร์จเร็ว 50W ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้หนึ่งวันภายในเวลาไม่ถึง 20 นาที เร็วกว่ารุ่น Phone (2a) มากถึง 10%

Phone (2a) Plus ยังคงมาพร้อมกับแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดของ Nothing จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีความจุสูงถึง 5,000 mAh สามารถใช้งานได้สูงสุดถึงสองวันต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง และยังคงความจุแบตเตอรี่ได้มากกว่า 90% แม้หลังจากการชาร์จ 1,000 รอบ

หน้าจอแสดงผล

Phone (2a) Plus มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ที่มีความยืดหยุ่น พร้อมความละเอียด FHD+ ที่สามารถแสดงสีได้อย่างแม่นยำถึง 1.07 พันล้านสี มีความสว่างสูงสุดที่ 1,300 nits ซึ่งช่วยให้มองเห็นหน้าจอได้อย่างชัดเจน แม้ในวันที่แสงแดดจ้า

ด้วยเทคโนโลยี Active Matrix (AM ใน AMOLED) ทำให้หน้าจอของ Phone (2a) Plus สามารถควบคุมพิกเซลแต่ละจุดได้อย่างแม่นยำ ซึ่งช่วยให้คุณภาพของภาพดีขึ้นโดยไม่สิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรี่

Phone (2a) Plus ยังคงรักษาขอบหน้าจอที่บางที่สุดในกลุ่มสมาร์ทโฟนของ Nothing โดยมีความหนาเพียง 2.1 มม. เท่ากันทั้งสี่ด้านของหน้าจอ ความสำเร็จนี้ทำให้ได้สัดส่วนหน้าจอต่อขนาดตัวเครื่องถึง 91.65% ซึ่งทำได้โดยการผสมผสานระหว่างการใช้แผงจอภาพที่ยืดหยุ่นกับวิศวกรรมโครงสร้าง

การโต้ตอบเป็นไปอย่างราบรื่นด้วยอัตราการรีเฟรชแบบปรับได้ 120 Hz ที่ปรับตามเนื้อหาได้อย่างลงตัว และอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสที่ 240 Hz เพื่อการตอบสนองที่รวดเร็วทันใจ

ดีไซน์ไฟ Glyph

ที่ด้านหลังของโทรศัพท์ Phone (2a) Plus ยังคงมาพร้อมกับ Glyph ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นวิธีใหม่ในการโต้ตอบกับสมาร์ทโฟนที่ส่งเสริมให้ผู้ใช้ลดการใช้หน้าจอลงและอ้างอิงจากลวดลายแสงและเสียงเพื่อรับข้อมูลสำคัญ Glyph ที่มีความมุ่งเน้นนี้ยังคงรักษาความสามารถทั้งหมดของ Phone (2a) รวมถึง Glyph Timer และ Glyph Progress ที่ใช้การรวมเข้ากับแอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม พร้อมทั้งส่องสว่างการออกแบบใหม่ที่เป็นเมทัลลิกของ Phone (2a) Plus