หมอต้อย กิฟฟารีน สุดภูมิใจรับรางวัล “คนดีปิดทองหลังพระ”

0 0
Read Time:4 Minute, 30 Second

หมอต้อยกล่าวว่า หลายคนเคยพูดว่า “ทำดีแล้วไม่เห็นได้ดี” ในความคิดส่วนตัว ทำดีแล้วได้ความรู้สึกที่ดีทันทีที่ทำ แต่เรื่องการหวังผลด้านอื่น บางครั้งก็ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งในส่วนของผลลัพธ์ที่ได้รับทันทีนั้นคือ การขัดเกลาจิตใจและลดกิเลสตนเองนั่นเอง   

ความจริงแล้ว ทุกคนมีสิทธิที่จะทำความดี ไม่ว่าจะยากดีมีจน แค่เป็นคนธรรมดาที่มีใจอยากช่วยเหลือสังคม ก็ทำความดีได้แล้ว นี่เป็นหนึ่งในแนวความคิดของ “หมอต้อย” แพทย์หญิงนลินี ไพบูลย์ ซีอีโอหญิงเก่ง ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด บริษัทขายตรงที่เป็นแบรนด์ไทยที่เติบโตสู่ระดับสากล ผู้ที่พา “กิฟฟารีน” กวาดรางวัลมานับไม่ถ้วน  

นอกจากรางวัลความสำเร็จที่กิฟฟารีนฯ ได้รับมาแล้วนั้น หมอต้อย ยังตอกย้ำความสำเร็จในด้านการทำคุณประโยชน์ต่อสังคม จากการได้รับรางวัล “ผู้ปิดทองหลังพระ ประจำปี 2564” ในฐานะนักธุรกิจคนไทยที่คืนกำไรสู่สังคมด้วยการให้แก่ผู้ยากไร้ ซึ่ง แพทย์หญิงนลินี ไพบูลย์ กล่าวถึงรางวัลนี้ว่า รู้สึกชื่นชมสมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ที่จัดให้มีรางวัลนี้ขึ้นมา เชื่อว่ารางวัลนี้จะเป็นขวัญและกำลังใจให้คนไทยหลายคนที่ทำความดี และถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งในชีวิตที่ได้รับรางวัลนี้ รวมทั้งถือโอกาสนี้ขอบคุณคณะกรรมการอย่างมากที่พิจารณาให้ได้รับรางวัลในครั้งนี้

“โดยส่วนตัวชอบคำว่า ‘ปิดทองหลังพระ’ มาก เพราะอยู่ในแนวพระราชดำริ มันเป็นอะไรบางอย่างที่เหมือนทดสอบความรู้สึกของเราเองว่า จริงหรือที่เราอยากจะทำเรื่องดีๆโดยไม่หวังผลตอบแทน และเชื่อไหมว่าเมื่อทำซ้ำๆและบ่อยครั้ง เราจะพบว่าการทำความดีแบบปิดทองหลังพระ คือการทำดีที่สร้างความปิติสุขอย่างลึกซึ้ง แม้ว่าผู้ที่เราช่วย เช่น สัตว์ ทารก คนพิการ หรืออาจไม่มีใครรับรู้การกระทำของเราเลยก็ตาม เราก็มีความสุขจากการมองเห็นเขาเหล่านั้นมีชีวิตที่สิ้นทุกข์และปลอดภัย มาถึงวันนี้ นอกจากการดูแลองค์กรที่ต้องทำทั้งในส่วน CSR  แล้ว ในฐานะที่เรามุ่งมั่นว่ากิฟฟารีนจะต้องเป็นองค์กรที่คืนกำไรสู่สังคมด้วย เราก็ต้องทำความดีที่ออกสื่อด้วยโดยตลอดเพื่อแสดงจุดยืนของ Brand ว่าเราเป็นองค์กรที่พร้อมจะดูแลสังคม แต่ขอยืนยันว่า ในชีวิตส่วนตัวบ่อยครั้งที่จะทำความดีหรือสร้างกุศลในทุกครั้งที่สามารถทำได้ แบบปิดทองหลังพระนี่แหละ   

ในส่วนตัว ได้มีช่วยเหลือทั้งคนและสัตว์มากมาย ครั้งหนึ่งเคยไปช่วยย้ายสวนสัตว์ดุสิต ทางสวนสัตว์ไม่ได้ขอให้ไปช่วยนะคะ แต่เราขอเข้าไปช่วยเองด้วยความคิดเพียงอย่างเดียวคือ อยากให้สัตว์ที่มีอายุมากได้รับการย้ายอย่างนุ่มนวล ไม่กระทบกระเทือน เช่น ฮิปโปแม่มะลิและสัตว์ที่มีคอยาว เช่น ยีราฟ ก็ทำให้การโยกย้ายเป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย ด้วยการสร้างกรงที่ปรับความสูงได้ เพราะการเดินทางไปบ้านใหม่ต้องก้มตัวลดความสูงเพื่อลอดสะพานตลอด

หลังจากนั้นก็ไปเยี่ยมสัตว์เหล่านี้หลายครั้ง เขาไม่รู้หรอกว่า เราช่วยเขา แต่เรามีความสุขทุกครั้งที่พบว่าเขามีความสุขจนถึงทุกวันนี้และ อยากจะบอกทุกท่านว่า เชื่อเถิดค่ะ ว่าการปิดทองหลังพระ หรือการทำความดีที่ไม่หวังผล ไม่ต้องการให้ใครรับรู้ เป็นการขัดเกลาจิตใจ อย่างดีที่สุด เพราะเราจะมีความโลภที่น้อยลง ไม่โกรธง่าย และมีสติมากขึ้น เป็นความรู้สึกดีๆที่ไม่สามารถอธิบายได้

โดยส่วนตัวนะคะรู้สึกเสมอว่าการทำความดีโดยที่คนไม่รู้ จะมีความสุขมากกว่าการทำความดีที่สาธารณชนรับรู้ด้วยซ้ำ คือมันเหมือนได้อะไรคนละแบบ  การทำความดี ไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากมาย หรือเป็นคนมีชื่อเสียงโด่งดังหรอกค่ะ เป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่มีใจอยากช่วยเหลือสังคม ตามกำลังของตนเองก็ถือเป็นความดีที่ยิ่งใหญ่แล้ว โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิดแบบนี้ มีคนดีมากมายช่วยเหลือโรงพยาบาลเล็กๆ หรือเพื่อนมนุษย์ที่ยากลำบากทั้งๆที่เขาเหล่านั้น ก็ไม่ได้มีเงินมากมายอะไร และก็ไม่มีใครรู้นอกจากผู้ที่เขายื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ยังพูดเสมอว่าเชื่อไหมเรามีคนไทยที่เป็นคนดีมากมายกว่าที่ใครๆ คิด

หมอต้อย-แพทย์หญิงนลินี ไพบูลย์ ถือเป็น 1 ใน 23 “ผู้ปิดทองหลังพระ ประจำปี 2564” ที่ได้รับรางวัลจากสมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย โดยมติคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พิจารณาคัดเลือกจากประวัติผลงานทำคุณประโยชน์ ผู้เสียสละเพื่อสังคมต่อเนื่องยาวนาน โดยการมอบรางวัลผู้ปิดทองหลังพระ จัดขึ้นทุกปี จะมีบุคคลสำคัญที่ได้รับเชิญเข้าร่วมเป็นเกียรติกับรางวัลนี้ เพื่อร่วมกันยกย่องเกียรติคุณ ผลงาน คุณงามความดีของผู้เข้ารับรางวัล เพื่อให้ผู้เข้ารับรางวัลมีกำลังใจทำความดีเพื่อประโยชน์ของสังคมและประเทศชาติต่อไป

ทั้งนี้ นักธุรกิจหัวใจหมอท่านนี้ ได้ฝากข้อคิดให้คนไทยว่า ทำความดีไปเถิด ทำเท่าที่ทำได้ ความสุขเกิดขึ้นทันทีที่ทำ ถ้าเข้าใจและคิดอย่างลึกซึ้ง ชีวิตคนไม่ยืนยาวนักหรอก ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ แต่ก่อนไม่เข้าใจคำพูดของคนโบราณว่าคนอายุยืนเป็นผู้มีบุญ เถียงในใจว่า เราไม่เห็นอยากอยู่จนแก่เลย มีแต่โรคภัย ร่างกายก็ร่วงโรย มาวันนี้เข้าใจแล้ว คนอายุยืนยาว คือคนที่จะมีโอกาสได้ทำความดีได้มากๆ และนานๆ นั่นเอง ถ้าเขาไม่ทิ้งโอกาสอันมีค่านั้นไป

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

%d bloggers like this: