มินเทลเผยรายงานภาพรวมตลาดอาหารและเครื่องดื่มในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ปี 2565 และเทรนด์อาหารและเครื่องดื่มทั่วโลกประจำปี 2566
มินเทล ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยความต้องการของผู้บริโภคและปัจจัยขับเคลื่อน ได้เผยแพร่รายงานภาพรวมตลาดอาหารและเครื่องดื่มในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ให้ความสำคัญกับปัจจัย 3 ประการ ได้แก่ เงินเฟ้อและความคุ้มค่า สุขภาพกายและสุขภาพจิต และ ประสบการณ์รสสัมผัสยุคใหม่ ผ่านการสำรวจแนวโน้มผู้บริโภคและการเปลี่ยนแปลงของตลาดอาหารและเครื่องดื่มในภูมิภาคในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
คุณ โจลีน อึ้ง นักวิเคราะห์อาวุโสด้านอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลกของมินเทล กล่าวถึงกลยุทธ์ที่แบรนด์ควรใช้เพื่อช่วยผู้บริโภคในเอเชีย-แปซิฟิกจัดการกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ความคุ้มค่ากลายเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ข้อแนะนำต่าง ๆ ในรายงานนี้มาจากการวิจัยและการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกโดยผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารระดับภูมิภาคของมินเทล
เงินเฟ้อและความคุ้มค่า
“ผู้บริโภคที่คำนึงถึงงบประมาณการใช้จ่ายจะเลือกเข้าร้านที่ถูกกว่าและเลิกซื้อสินค้าจากแบรนด์ประจำเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่ม สถานการณ์นี้เป็นทั้งความเสี่ยงต่อร้านค้าปลีกเพราะผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปเข้าร้านคู่แข่งที่มีความคุ้มค่ามากกว่า และยังเป็นทั้งโอกาสให้ร้านค้าปลีกจัดโปรโมชันราคาประหยัดเพื่อดึงดูดลูกค้า การจัดโปรโมชันสำหรับสินค้าจำเป็นที่เน่าเสียยากจะดึงดูดผู้บริโภคได้ดีเพราะพวกเขากำลังให้ความสนใจกับสินค้าแช่แข็งและสินค้าที่เก็บได้นาน
“นอกจากนี้ หมวดหมู่อาหารเพื่อความสุขจะมีความต้องการสูง ในช่วงการระบาดใหญ่ ผู้บริโภคได้หาความสุขให้ตัวเองผ่านความสะดวกสบาย แต่ในปัจจุบัน งบที่น้อยลงทำให้ผู้บริโภคหันไปหาความสุขจากสินค้าที่มีราคาถูกกว่าเดิม แบรนด์ค้าปลีกสามารถใช้โอกาสนี้ในการเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคที่เกิดจากการลดการจับจ่ายนอกบ้านด้วยการมอบอาหารและบริการเพื่อความสุขในราคาที่ถูกลง
“เงินเฟ้อยังมอบโอกาสให้แบรนด์ขนมขบเคี้ยวของร้านค้าปลีกพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ แบรนด์ขนมขบเคี้ยวสามารถนำเสนอคุณภาพของสินค้าและจัดวางตำแหน่งทางการตลาดในหมวดหมู่สินค้าราคาประหยัด การเพิ่มรสชาติใหม่ ๆ และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจะเป็นสิ่งสำคัญในการขยายฐานลูกค้า”
สุขภาพกายและสุขภาพจิต
“โควิด-19 ได้เปลี่ยนชีวิตประจำวันของคน เปลี่ยนการนอนหลับของผู้บริโภคในทุกช่วงอายุ งานวิจัยด้านความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภคอินเดียในด้านจิตใจและอารมณ์พบว่าร้อยละ 66 ของผู้ใหญ่ชาวอินเดียบอกว่าปัญหาด้านการนอนหลับ (เช่น การนอนไม่หลับและความเหนื่อยล้า) มีอาการเหมือนเดิมหรือแย่ลงในช่วงการระบาด แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคทุกกลุ่มต้องการอาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยแก้ปัญหาด้านการนอนหลับเพื่อการมีสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่แข็งแรง นอกเหนือจากการนอนหลับ แบรนด์สามารถช่วยผู้บริโภคจัดการกับความเครียดและความวิตกกังวลด้วยการมอบการสนับสนุนทางโภชนาการส่วนบุคคลเพื่อความสมดุลของฮอร์โมนและสุขภาพที่ดี
“เทรนด์ความงามที่กินได้ยังมอบโอกาสให้กับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ในประเทศจีน ผู้บริโภคหญิงชาวจีนเชื่อในแนวคิดความงามจากภายใน งานวิจัยของเราพบว่าร้อยละ 67 ของผู้บริโภคเชื่อว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อความงามมีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกายโดยรวมได้เช่นกัน ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มสามารถใช้ประโยชน์จากแนวคิดของผู้บริโภคได้ด้วยการนำเสนอโซลูชันสุขภาพองค์รวม ตัวอย่างเช่น เครื่องดื่มหลังออกกำลังกายที่มีการเพิ่มคุณสมบัติด้านความงามอาจได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้น”
ประสบการณ์รสสัมผัสยุคใหม่
“ไลฟ์สไตล์การสร้างความสำราญภายในบ้านช่วยให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้นในการรับประทานเบเกอรีที่บ้าน ในประเทศญี่ปุ่น สินค้าพร้อมอบแช่แข็งได้รับความนิยมสูงเพราะทำง่ายและเก็บได้นาน โดยเฉพาะชนิดที่อบง่ายและละลายเร็ว
“การโฆษณาผลิตภัณฑ์เบเกอรีนั้นทำได้หลายวิธี แต่การนำเสนอด้วยรูปภาพที่น่าสนใจจะเป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดลูกค้า งานวิจัยของเราพบว่าร้อยละ 38 ของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นคิดว่าการนำเสนอนั้นมีความสำคัญเทียบเท่ากับรสชาติของอาหาร แบรนด์อาหารเพื่อความสุขควรพัฒนาการรับรองด้านสุขภาพและมอบตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับลูกค้า โดยเฉพาะในหมู่ผู้บริโภคที่คำนึงถึงสุขภาพ
“ในขณะเดียวกัน แบรนด์ในหมวดหมู่น้ำอัดลมควรหาวิธีในการใช้รสชาติเป็นตัวช่วยให้ผู้บริโภคแสดงออกถึงความสนใจและวัฒนธรรมของพวกเขา ดอกไม้และพืชต่าง ๆ เป็นรสชาติใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และแบรนด์สามารถเชื่อมโยงรสชาติเหล่านั้นกับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้ เช่นการใช้รสซากุระซึ่งเป็นดอกไม้ที่สื่อถึงประเทศญี่ปุ่น การเชื่อมโยงรสชาติเข้ากับวัฒนธรรมยังช่วยเพิ่มความหมายของรสชาตินั้น ๆ ได้อีกด้วย” คุณโจลีน อึ้ง กล่าวสรุป