MASTER ลุยช่วยเหลือ แจ๊ส มิสทิฟฟานี คลินิกอื่นทำพลาดจน ‘จมูกย่นยู่’ พังซ้ำพังซ้อน
MASTER ในนามโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช Specialty Hospital ของอุตสาหกรรมความงามชั้นนำของเมืองไทยและเอเชีย เดินหน้าลุยช่วยเหลือเคสจมูกพัง ‘แจ๊ส มิสทิฟฟานี 2009’ เป็นเคส CSR เยียวยาผู้เสียหายจากคลินิกอื่นที่ทำศัลยกรรมจมูกผิดพลาด เน่า และเย็บจนย่นยู่ผิดทรง
คุณดาว – ลภัสรดา เลิศภานุโรจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) พูดถึงการช่วยเหลือสังคมของ MASTER ว่า “MASTER ตั้งใจสานต่อโครงการ CSR (Corporate Social Responsibility) คืนกำไรสู่สังคม จากจุดเริ่มต้นของโครงการ CSR เปลี่ยนชีวิตเมื่อปีที่แล้ว ในแคมเปญครบรอบ 9 ปี แจกฟรี 9 เคส โดยในปี 2566 บริษัทมีความตั้งใจสานต่อโครงการ CSR ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ด้วยแคมเปญ ‘Make Your Looks’ ช่วยให้ผู้ที่ได้รับคัดเลือกเปลี่ยนภาพลักษณ์ มีลุกส์ใหม่ ตลอดจนมีแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
“และสำหรับเคส คุณแจ๊ส – สรวีย์ รวีรัฐฐากรณ์ อดีตมิสทิฟฟานี ปี 2009 ถือเป็นอีกหนึ่งเคสยาก โดยเป็นเคสคนดังที่ได้รับผลกระทบทั้งร่างกายและจิตใจจากการทำศัลยกรรมจมูกผิดพลาด เราตั้งใจยื่นมือให้ความช่วยเหลือโดยคำนึงถึงความยาก ที่หากไม่ได้แพทย์ชำนาญการที่เก่ง มีประสบการณ์สูงพอ ก็อาจถึงขั้นเสียโฉมได้
“ในนามโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช เราเปิดรับความช่วยเหลือทางสังคมตรงนี้อยู่ด้วย โดยมีหลาย เคสที่ขอความช่วยเหลือมา ซึ่งอยากฝากไว้ว่า เวลาพบเจอเรื่องเหล่านี้ เช่น การเสริมหรือทำศัลยกรรมผิดพลาด ให้ใจเย็นๆ เพราะในการแก้ไขจำเป็นต้องมีขั้นตอน กระบวนการ และมาตรฐานที่ถูกต้อง
“อย่างเคสนี้ที่คุณหมอเบนซ์ – นายแพทย์โฆษิต เอี้ยวฉาย แพทย์ชำนาญการด้านศัลยกรรมจมูกแบบ Open รับเป็นเคสช่วยเหลือ เพื่อให้คุณแจ๊สได้จมูกใกล้เคียงเดิมกลับมา ทั้งนี้ นอกเหนือจากความสวยงาม ยังมั่นใจว่าจะสามารถแก้ไขทรงจมูกและระบบทางเดินหายใจให้กลับมาใช้งานได้ดังเดิม”
คุณแจ๊ส อดีตมิสทิฟฟานี 2009 เผยว่า ทรงจมูกที่ไปทำศัลยกรรมกับคลินิกแห่งหนึ่งเมื่อหลายเดือนก่อนเกิดปัญหาแผลติดเชื้อจนทำให้จมูกแหว่งและเน่า “ตอนแรกตั้งใจว่าจะจ่ายค่าทำศัลยกรรมจมูกเอง แต่ทางคลินิกเห็นว่าแจ๊สป็นอดีตมิสทิฟฟานี จึงอาสาทำศัลยกรรมให้ฟรี โดยขอเป็นเคสรีวิว
“ผลปรากฏว่าหลังทำศัลยกรรมเสร็จ กลับมาพักฟื้นที่บ้าน จมูกที่ทำมาเกิดเน่าจนเป็นแผลติดเชื้อ จึงติดต่อคลินิกเพื่อแก้ไขโดยการเอาแท่งซิลิโคนออก ในวันนัดแก้ไขไม่เจอหมอคนเดิมที่ทำให้ หนำซ้ำคนเอาแท่งซิลิโคนออกจากจมูกให้กลับไม่ใช่หมอ แต่เป็นผู้ช่วยแพทย์ที่เคยนั่งประกบ ทำหน้าที่ฉีดยาชา กรีดจมูกก่อนดึงซิลิโคนออกมาให้ ผลคือพังซ้ำซ้อน จมูกผิดรูปหนักกว่าเดิม”
คุณแจ๊สใช้เวลาพักฟื้นเนื้อจมูกที่ทำผิดพลาดนานหลายเดือน และยินดีที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชยื่นมือมาให้ความช่วยเหลือ ส่วนในเรื่องคดีความกับคลินิกที่ทำจมูกตนเองพัง คงต้องให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย “ไม่คาดหวังว่าจมูกจะกลับมาสวยสมบูรณ์แบบ และขอขอบคุณคุณหมอเบนซ์ที่ให้ความเมตตาช่วยเหลือ”
พร้อมกับฝากถึงใครก็ตามที่คิดจะทำศัลยกรรมความงามว่า “ต้องเลือกและทำการบ้านให้ดี และทำกับสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน อย่าหลงเชื่อคำเชิญชวน โฆษณา หรือโปรโมชั่นราคาถูก เพราะฝันร้ายมีอยู่จริง โดยเฉพาะเคสของแจ๊สที่จมูกผิดรูป ส่งผลต่อจิตใจและร่างกายที่ไม่สามารถหายใจได้คล่องเหมือนปกติ”
ด้านหมอเบนซ์ – นายแพทย์โฆษิต เอี้ยวฉาย แพทย์ชำนาญการศัลยกรรมจมูกด้วยเทคนิค Open Rhinoplasty หรือเสริมจมูกแบบเปิด กล่าว “ปัญหาหลักคือเรื่องแผลบริเวณผิวหนัง จากภายนอกที่เห็น (วิเคราะห์ก่อนการผ่าตัด) โครงสร้างข้างในจมูกของคนไข้อาจจะถูกตัด และถูกเย็บจนมีการย่นเข้ามาหากันในหลายตำแหน่ง ไม่ค่อยเหลือชั้นไขมันคั่นระหว่างผิวหนังชั้นนอกกับกระดูกอ่อนด้านในตรงบริเวณ 3 แยกรอยต่อระหว่างปลายจมูก แกนกั้นรูจมูกกับตรงบริเวณที่แยกไปเป็นปีกจมูกทั้ง 2 ข้าง
“กรณีของคุณแจ๊ส คนไข้มีความต้องการทำจมูกทรงหยดน้ำ ซึ่งจำเป็นต้องทำให้จมูกถูกยืดลงมา ซึ่งปัญหาจากการทำจมูกครั้งก่อนทำให้มีเนื้อจมูกน้อย แถมมีแผลเป็น และแผลเป็นบางส่วนเป็นแผลที่อยู่ในชั้นตื้น ฉะนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือเติมเนื้อด้านในให้มีความหนามากขึ้นก่อน หลังจากนั้นต้องตกแต่งแผล ก่อนจบด้วยการผ่าตัดจมูกแบบ Open แต่ทั้งนี้ จุดประสงค์หลักของการแก้ไขคือทำให้จมูกดูปกติมากขึ้น”
“พูดในฐานะที่ไม่ใช่แพทย์ทำศัลยกรรมจมูกละกันครับ อย่างแรกที่ผมจะทำก่อนเลย คือต้องทราบชื่อ – นามสกุล และเลขใบประกอบโรคศิลป์ของคนที่จะทำจมูกให้เรา จะรู้แค่ชื่อเล่นของคุณหมอไม่ได้ อย่างบางคนมาทำจมูกกับหมอเบนซ์ ผมยังสงสัยอยู่ว่าเขารู้หรือเปล่าว่าผมมีชื่อจริงชื่อว่า ‘โฆษิต เอี้ยวฉาย’ และเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมของผมคืออะไร
“บางคนอาจรู้จักผมแค่ชื่อเล่น ‘หมอเบนซ์’ ก็ได้ หรือบางคนอาจคิดว่าผมเป็นหมอศัลยกรรมพลาสติก แต่ที่จริงแล้ว ผมเป็นหมอ หู คอ จมูก ซึ่งคนอาจคิดว่าหมอ หู คอ จมูก ทำจมูกได้หรือ ผมก็จะถามกลับว่า แล้วถ้าหมอ หู คอ จมูก ผ่าจมูกไม่ได้ จะให้หมออะไรมาผ่า
“อย่างที่ 2 คือดูว่าสาขาวิชาที่จบมามีความเหมาะสมกับสิ่งที่คุณจะไปผ่าตัดศัลยกรรมหรือเปล่า ยกตัวอย่างเช่น คนนี้จบตามา เป็นจักษุแพทย์ แล้วมาผ่าตา ผมว่าก็เหมาะสม อย่างที่ 3 คือดูปีที่จบ ไม่ใช่จบเมื่อต้นปี ยังไม่ทันรับปริญญา แต่มาผ่าตาคุณแล้ว แล้วไปโฆษณาว่าผ่าตามาแล้ว 2,000 เคส
“คำโฆษณายิ่งเชื่อถือไม่ได้ เพราะทุกคนต้องโฆษณาว่าตัวเองดีหมด เก่งหมด หรือโปรโมชั่นก็สำคัญ สังเกตว่าถ้าราคาถูกเกินจริง ก่อนตัดสินใจทำให้คุณช่วยศึกษาดูราคาในท้องตลาด เช่น สมมติมือหนึ่งในตลาดจมูก Open ราคาเริ่มต้นที่ 400,000 บาท คนที่จะทำให้คุณแล้วจมูกออกมาค่อนข้างดี ผมว่ามันต้องหาร 2 ส่วนคนที่คิดราคาได้ถูกกว่านั้น แสดงว่าเขาคงไม่ค่อยมีเคสให้ทำ หรือถ้าคิดราคาถูกแสนถูก ทำจมูก Open ราคา 40,000 หรือ 50,000 บาท ให้สันนิษฐานว่าคุณหมอน่าจะแค่อยากหาเคสมาฝึก
“ก่อนทำจมูก หรือทำศัลยกรรมความงามอะไรก็ตาม ให้คุณเดินเข้าไปคุยกับหมอ ฟังเขาว่าอธิบายรู้เรื่องไหม สถานพยาบาลเป็นอย่างไร เป็นโรงพยาบาล หรือคลินิกที่ได้มาตรฐานหรือไม่”
และสำหรับเคสที่ผิดพลาด ประสบกับปัญหาทำศัลยกรรมไม่ได้อย่างใจหวัง คุณหมอเบนซ์ให้ข้อคิดไว้น่าฟัง “มนุษย์เราผิดพลาดได้ตลอดเวลา ตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่ เราตัดสินใจพลาดได้ทุกเรื่อง ไม่ใช่แต่เฉพาะเรื่องการผ่าตัดศัลยกรรมจมูก แต่เมื่อเราผิดพลาดอะไรในชีวิตแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือหยุดคิด ห้ามใจร้อน และอย่ารีบแก้ เราต้องให้เวลาเนื้อพักบ้าง และในระหว่างนั้นให้หันมองไปรอบๆ หาที่ปรึกษา หรือหากบังเอิญยังไม่ไว้ใจในคำปรึกษา ก็ให้ไปหาที่ปรึกษาอื่นอีกหลายๆ คน แล้วนำมาประมวลผลรวม
“ไม่ต้องโทษตัวเอง เพราะการโทษตัวเองไม่มีประโยชน์ครับ” หมอเบนซ์สรุป