Lady Féerie watch ของ Van Cleef & Arpels ชนะรางวัล the Ladies’ Complication Prize
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน นาฬิกาข้อมือ Lady Féerie watch ของ Van Cleef & Arpels ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติสาขานาฬิกาหัตถศิลป์ the Prestigious Ladies’ Complication Prize at the 2021 Grand Prix d’Horlogerie de Genève ซึ่งมอบให้แก่ผลงาน “นาฬิกาข้อมือสุภาพสตรีอันแสดงให้เห็นถึงสุดยอดความเป็นเลิศในเชิงกลไกความซับซ้อน” ร่วมกับไหวพริบและทักษะในการพลิกแพลง ผสมผสานความชำนาญเชิงศิลปะหัตถกรรมแขนงต่างๆ หลอมรวมกันจนก่อเกิดเป็นผลงานอันวิจิตรบรรจงประดุจภาพแห่งความฝัน
รูปกายอันบอบบางของนางฟ้า บ่งบอกถึงความเป็นผู้หญิงอย่างชัดเจน ซึ่งกำลังนั่งอยู่บนก้อนเมฆแผ่นแม่มุกมาเธอร์-ออฟ-เพิร์ลสีขาวเหลือบระยับ ใช้ไม้คทาร่ายมนต์ของตนต่างเข็มนาที ในขณะที่งานเจาะช่องกลมเป็นดวงจันทร์อาศัยตัวเลขสลักบนแผ่นแม่มุกรองหลังบอกชั่วโมงอยู่ท่ามกลางวงรัศมีตระการตา
เพชรเดี่ยวต่างวงหน้าของเธอทอประกายสว่างสุกใสตัดกับผืนทิฆัมพรไล่โทนฟ้าถึงน้ำเงิน บนแผ่นแม่มุกมาเธอร์-ออฟ-เพิร์ล สลักลายร่องบากเป็นหยักคลื่นรัศมีอย่างที่เรียกว่าเทคนิคกวิโญเช (guilloche) กลมกลืนกับโทนสีของคู่ปีกโปร่งแสงบนกลางหลัง อันเป็นประดิษฐกรรมจากลีลาผสมผสานทับซ้อนระหว่างงานลงยาลายฉลุ “ปลิการฌูร” (plique-à-jour) และลงยาเคลือบสี “กรีซายล์” (grisaille)
นี่เป็นครั้งแรกที่เมซงนำเทคนิคหัตถศิลป์สุดประณีตนี้ มาใช้ร่วมกันบนแผ่นโมทิฟชิ้นเดียวเพื่อก่อมิติความลึกสลับลูกเล่นไล่โทนบนปีกนางฟ้า ซึ่งยังทวีอำนาจสะกดสายตาด้วยมนตราของงานฝังเพชรสุดละเอียด พิถีพิถันเพื่อเดินขอบตามเส้นลายลงยา
ส่วนด้านหลังของนาฬิกาคือจานเหวี่ยง (oscillating weight) สลักลวดลายเป็นจันทร์เต็มดวงบนผืนฟ้าประดับดาว
จุดเริ่มต้นหนึ่งในขนบธรรมเนียมทางงานออกแบบอันเป็นที่รักยิ่งของ Van Cleef & Arpels บรรดาเครื่องประดับจำลองรูปลักษณ์เรือนกายอิสตรีรุ่นแรกของเมซงได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเมื่อช่วงต้นทศวรรษ 1940 ในรูปแบบของเข็มกลัดนางฟ้า และนางระบำปลายเท้า (บัลเลรินา) สำหรับเครื่องประดับนางฟ้าอันเป็นตัวแทนความสุข เบิกบานใจ และเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง สามารถชนะใจเหล่านักสะสมได้อย่างรวดเร็วด้วยท่วงท่าอากัปงามสง่า กับปีกที่แสนบอบบาง ในลีลาคล้ายเตรียมพร้อมโบยบินสู่ห้วงเวหน บ่อยครั้งที่วงหน้าเพชรเดี่ยวเหลี่ยมกุหลาบจะครองมงกุฎ หรือเครื่องประดับศีรษะแบบต่างๆ นับจากปี 2007 กับนาฬิกาข้อมือ Lady Féerie เรือนแรก
นาฬิกาข้อมือ Lady Féerie อาศัยกลไกขับเคลื่อนแบบขึ้นลานในตัวหรือระบบไขลานอัตโนมัติ (self-winding) ประกอบกับจักรกลเข็มนาทีแบบตีกลับ (retrograde) และจักรกลช่องบอกเลขชั่วโมง (jumping hours) ระบบกลไกสุดซับซ้อนซึ่งต้องทำงานร่วมกันอย่างสอดคล้องนี้ ต้องอาศัยความประณีต พิถีพิถัน และแม่นยำเป็นอย่างสูง ทั้งในแง่ของการออกแบบ และการประกอบชิ้นส่วนให้ลงตัวอยู่ภายในกรอบตัวเรือนรุ่น Lady ซึ่งมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางแค่ 33 มม. เท่านั้น
นอกจากนั้น งานประดับกระจกไพลินแผ่นกลมบนตัวเรือนยังช่วยเร่งความเข้มแสง ซึ่งส่องผ่านเข้ามา พร้อมกับเป็นการแสดงให้เห็นถึงความละเมียดละไมในการตกแต่งโครงสร้างรูปทรงขั้นตอนสุดท้ายให้แก่นาฬิกาข้อมือรุ่นนี้
เพื่อแสดงถึงจุดยืนในมุมมองอันงดงามที่มีต่อชีวิต Van Cleef & Arpels ได้หลอมรวมมิติหนึ่ง ซึ่งมีความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเข้าไว้ในศิลปะการสร้างสรรค์นาฬิกาข้อมือ นั่นก็คือมิติแห่งความฝัน และอารมณ์ ด้วยบทบรรจบระหว่างประดิษฐกรรมกับจินตนาการ เมซงให้กำเนิดผลงานบอกเวลาอันแม่นยำผ่านรายละเอียดสุดอัศจรรย์ จุดประกายความฝันได้อย่างเสมอมา
ในการถ่ายทอดความวิจิตรบรรจงให้แก่บทกวีบอกเวลา เมซงอาศัยแง่มุมต่างๆ ทางประวัติศาสตร์ความเป็นมาของตน ร่วมกับบรรดาแหล่งกำเนิดแรงบันดาลใจอันถือเป็นสัญลักษณ์เฉพาะตัว ผลงานสร้างสรรค์ต่างๆ ชวนให้นึกถึงมรดกแห่ง Van Cleef & Arpels ที่ดำรงอยู่คู่เคียงกับเรื่องราวบทใหม่ของความรัก และเครื่องหมายนำโชค เหล่านางฟ้า และนางระบำเคลื่อนกายบอกโมงยาม ในขณะที่วงจรของธรรมชาติเปลี่ยนจังหวะสอดคล้องกับครรลองของจักรวาล นาฬิกาข้อมือแต่ละรุ่น จากแต่ละคอลเลคชั่น ล้วนทำหน้าที่บอกเวลาอย่างงามสง่าผ่านเรื่องราวอันเปี่ยมเสน่ห์ประทับใจ