พบกับ Golden Goose สาขาแรกในกรุงเทพมหานคร
Golden Goose (โกลเด้น กูซ) เปิดสโตร์แห่งแรกในประเทศไทยใจกลางกรุงเทพมหานครที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ เพื่อตอกย้ำความหรูหราแบบฉบับอิตาเลียนยุคใหม่ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
งานออกแบบตกแต่งสโตร์บนพื้นที่กว่า 200 ตร.เมตร อาศัยแรงบันดาลใจจากมรดกสถาปัตยกรรมอิตาเลียนภายใน Headquarter ของเวนิซ ไม่ว่าจะเป็นผนัง และพื้นคอนกรีตเปลือยปราศจากการฉาบ หรือขัดเงา อีกทั้งยังให้ความรู้สึกอบอุ่นจากรายละเอียดงานประดับของที่ระลึกจากการสะสมของแบรนด์ระหว่างเดินทางไปทั่วโลก เพื่อถ่ายทอดถึงแรงบันดาลใจเบื้องหลังการก่อตั้ง และสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นต่างๆ ของแบรนด์
ความรู้สึกแข็งแกร่ง ทนทานในงานออกแบบ ได้รับการสมดุลด้วยความอ่อนโยนของเฟอร์นิเจอร์งานไม้สไตล์ย้อนยุค ซึ่งถูกนำมาจัดตำแหน่งขนานไปกับเคาน์เตอร์กระจกสำหรับใช้จัดแสดงผลงานรุ่นล่าสุดจาก Golden Goose รวมถึงแว่นตากันแดด Sunframes และเครื่องประดับ Jewelmates รุ่นใหม่
ทุกสายตาของลูกค้าผู้แวะเข้ามา จะถูกดึงดูดไปยังงานออกแบบจำลองห้องสร้างสรรค์งานฝีมือตรงพื้นที่กลางร้าน เช่นเดียวกับรองเท้าผ้าใบมากมายซึ่งทิ้งตัวห้อยลงจากตะแกรงขึงทั่วเพดานเพื่อย้อนนึกถึงแนวคิดแบบฉบับของผู้ก่อตั้งแบรนด์ในการแขวนรองเท้าผ้าใบตากแดดจนสีแผ่นเสริมส้นออกไปทางสีเหลืองเหมือนผ่านการใช้งาน มอบอารมณ์ของเก่าสไตล์วิจเทจสุดเท่
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมอบประสบการณ์ “ร่วมออกแบบ” หรือ Co-Creation บริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟตกแต่งรายละเอียดตามความต้องการเฉพาะบุคคล ด้วยความช่วยเหลือจาก Dream Makers หรือ “ทีมสานฝัน” อันประกอบไปด้วยศิลปิน และช่างฝีมือผู้เปี่ยมทักษะความชำนาญประจำแบรนด์ เพื่อให้ลูกค้าทุกคนสามารถตกแต่งผลงานชิ้นโปรดของตนในสไตล์เฉพาะตัวด้วยการใช้จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ของตนอย่างเต็มที่จนได้ Golden Goose รุ่นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในโลก
ภายใน สโตร์สาขาแรกที่กรุงเทพมหานครนี้ บริการตกแต่งรายละเอียดเฉพาะบุคคลจาก Dream Makers ช่างฝีมือผู้เปี่ยมทักษะความชำนาญในการสานฝันของ Golden Goose มอบประสบการณ์เหนือความคาดหวังผ่านหลายตัวเลือกทางการตกแต่งจากงานฝังคริสตัล, ตอกหมุด, ร้อยชาร์มรุ่นพิเศษ, เปลี่ยนสายผูกเชือกรองเท้า และยิ่งไปกว่านั้นคือเทคนิคอัดร้อนผนึกลายคริสตัลจาก Swarovski รวมถึงเปลี่ยนโลโก้ดาวห้าแฉกของ Golden Goose จากตัวเลือกอันหลากหลายทั้งแผ่นลายคริสตัล, แผ่นหนังขัดเงา, หนังกลับ, เกล็ดกลิตเตอร์ระยับแสง, ขนลูกม้า และอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานกร่อนผิว ฟอกสีซีด เติมรอยด่าง, งานปัก และภาพวาดลงสีด้วยมือ ทั้งหมดล้วนเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สร้างเอกลักษณ์เพียงหนึ่งเดียวเพื่อสะท้อนสไตล์เฉพาะตัวผ่านของใช้ชิ้นโปรด
ผ่านเข้าไปถึงอีกส่วนของสโตร์ คืองานออกแบบแนวล้ำสมัยด้วยการใช้กระจกเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้แก่บรรดารองเท้าผ้าใบรุ่นไอคอนิกของแบรนด์ ตลอดจนกระเป๋าถือ รวมถึงผลงานสร้างสรรค์รุ่นพิเศษ มีจำนวนจำกัด, เสื้อผ้าสำเร็จรูปของทั้งสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี, เครื่องประดับ และคอลเล็กชั่นรองเท้าผ้าใบ
ลูกค้าทุกท่านสามารถติดต่อที่สโตร์ได้โดยตรงเพื่อทำการนัดหมายรับบริการ Co-Creation Experience
นอกจากร้านค้า แบรนด์ยังเตรียมเปิด Younique (ยูนีค) คาเฟ่ที่มีแนวคิดในด้านนวัตกรรม พร้อมยกระดับประสบการณ์การจิบกาแฟ ผ่านการผสมผสานต้นตำรับแบบฉบับอิตาเลียนไปจนถึงสูตรปรุงพิเศษสไตล์สากล เพื่อมอบความหรูหราอย่างแท้จริง ลูกค้ายังสามารถสร้างความเพลิดเพลินใจได้จากการร่วมออกแบบสูตรกาแฟเฉพาะตัว ช่วยเติมเต็มบรรยากาศสุนทรีย์ให้กับช่วงเวลาพักผ่อนกับเพื่อนฝูง Younique เป็นที่รู้จักจากการยกย่องรากฐาน “งานผลิตในอิตาลี” ของแบรนด์ผ่านการสืบสานวัฒนธรรมกาแฟอิตาเลียนอันไร้ที่ติ