“ศาลเจ้าดะไซฟุเทมมังกู” ประกาศปิดปรับปรุงครั้งใหญ่ รวมศิลปินมือดีแห่งยุคมาสร้างศาลเจ้าชั่วคราว โดยเปิดให้เข้าชมเพียง 3 ปีเท่านั้น
ศาลเจ้าดะไซฟุเทมมังกู จะจัดพิธีรำลึกครั้งยิ่งใหญ่ทุกๆ 25 ปี โดยเลข 25 มีความเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิดกับซูงาวาระ มิจิซาเนะ (เทพเท็นจิน) ซึ่งได้รับความเคารพอย่างกว้างขวางในฐานะเทพเจ้าแห่งการเรียนรู้ เทพเจ้าแห่งศิลปวัฒนธรรม และเทพเจ้าแห่งความจริงใจ โดยในปีเรวะที่ 9 (ค.ศ. 2027) ที่จะถึงนี้ จะมีการจัดพิธีรำลึกต่อการจากไปของท่านซูงาวาระ มิจิซาเนะ เนื่องในโอกาสครบรอบ 1125 ปีอีกด้วย
เพื่อเตรียมการสำหรับพิธีดังกล่าว ตัวศาลเจ้าจะได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมครั้งยิ่งใหญ่ในรอบ 124 ปี โดยจะปรับปรุงในส่วนของ “ศาลเจ้าหลัก” ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ การก่อสร้างกินเวลาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมในปีเรวะที่ 5 (ค.ศ. 2023) ไปจนตลอดระยะเวลา 3 ปี ในโอกาสนี้ ทางเราจึงขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า “ศาลเจ้าชั่วคราว” ซึ่งจะจัดแสดงด้านหน้าศาลเจ้าหลักที่ปิดปรับปรุง ได้สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วพร้อมต้อนรับแขกผู้มาสักการะตลอดระยะเวลา 3 ปีต่อจากนี้
ตั้งแต่สมัยโบราณ นักเขียนงานวรรณกรรมและศิลปินจำนวนมากต่างอุทิศผลงานล้ำสมัยในยุคนั้น ๆ ให้กับเทพเท็นจิน เพื่อเชิดชูความสามารถของท่าน ผู้เป็นเลิศทั้งโคลงกลอนจีนและโคลงกลอนญี่ปุ่น ศาลเจ้าแห่งนี้จึงได้รับความนิยมในฐานะแหล่งกำเนิดศิลปวัฒนธรรมมาหลายยุคสมัย
ในการก่อสร้างศาลเจ้าชั่วคราวนี้ได้เหล่าศิลปินตัวแทนของชาวญี่ปุ่นสมัยใหม่มาช่วยรังสรรค์ ด้วยความปรารถนาที่จะสืบทอดคุณงามความดีของเทพเท็นจินในฐานะเทพเจ้าแห่งศิลปวัฒนธรรมไปสู่คนรุ่นหลัง การสร้างและออกแบบนี้ นำโดยคุณฟูจิโมโตะ โซซึเกะ จากบริษัท Sou Fujimoto Architects สถาปนิกที่มีผลงานทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นโปรดิวเซอร์ในการออกแบบสถานที่จัดงาน World EXPO โอซาก้าคันไซด้วย โดยแนวคิดในการสร้างครั้งนี้ ตัวของศาลเจ้าชั่วคราวถูกออกแบบให้ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ บนหลังคาเต็มไปด้วยความเขียวชอุ่ม ให้ความรู้สึกแปลกตาและเงียบสงบในขณะเดียวกัน
นอกจากนี้ ม่าน และ ฉากกั้น สำหรับศาลเจ้าชั่วคราวยังได้รับการตัดเย็บโดยแบรนด์ที่ได้เข้าร่วมในปารีสแฟชั่นวีค นั่นก็คือแบรนด์ Mame Kurogouchi ซึ่งเป็นแบรนด์แฟชั่นที่ได้รับการยอมรับระดับโลก การออกแบบนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการร้อยเรียงประวัติศาสตร์ของเทพเท็นจินและศาลเจ้า แสดงออกมาในรูปแบบของทิวทัศน์แห่งชีวิตที่โอบล้อมตัวศาลเจ้า ด้วยการใช้เทคนิคแบบดั้งเดิม ร่วมกับการใช้เครื่องทอผ้าสมัยใหม่
ในฐานะที่เป็น “แหล่งกำเนิดของศิลปะและวัฒนธรรม” ศาลเจ้าแห่งนี้จะยังคงสืบทอดบทบาทของเทพเท็นจิน เทพเจ้าแห่งศิลปวัฒนธรรมทั้งในปัจจุบันและต่อไปในอนาคต พร้อมกับสร้างสรรค์สิ่งใหม่เพื่อสะท้อนให้เห็นเสน่ห์ในยุคสมัยนั้นๆ
ศาลเจ้าชั่วคราวสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ระหว่างการปิดปรับปรุงศาลเจ้าหลักครั้งใหญ่ “ศาลเจ้าชั่วคราว” ได้ถูกสร้างขึ้น เพื่อเป็นที่ประดิษฐานดวงวิญญาณของเทพเจ้าชั่วคราว โดยในวันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคมนี้ จะมีพิธีเคลื่อนย้ายศาลเจ้า ซึ่งนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ศาลเจ้าชั่วคราวแห่งนี้ จะเป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางชินโต รวมถึงเปิดให้ประชาชนได้เข้าสักการะ
ทั้งนี้ ศาลเจ้าชั่วคราวถูกออกแบบโดยคุณฟูจิโมโตะ โซซึเกะ จากบริษัท Sou Fujimoto Architects ด้วยความคิดในการส่งต่อประวัติศาสตร์และประเพณีกว่า 1,100 ปีของศาลเจ้าไปสู่รุ่นลูกหลาน จึงได้สร้างศาลเจ้าชั่วคราวหลังใหม่นี้ โดยออกแบบให้โครงสร้างแบบดั้งเดิมของศาลเจ้าหลักผสมผสานเข้ากันกับดีไซน์ที่ทันสมัยในปัจจุบัน ซึ่งจุดเด่นคือ พืชพรรณบนหลังคา ซึ่งหนึ่งในนั้นคือต้นบ๊วยซึ่งเป็นต้นไม้ที่ปลูกในบริเวณศาลเจ้าและเป็นดั่งผู้พิทักษ์ของศาลเจ้า
นอกจากนี้ ที่นี่เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมโดยรอบตามฤดูกาลและสภาพอากาศอีกด้วย ทำให้ทุกครั้งที่มาเยือนศาลเจ้าชั่วคราวแห่งนี้ เราจะได้ชมรูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนเดิม สามารถสัมผัสได้ถึงธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของศาลเจ้าอย่างแท้จริง
แบรนด์ Mame Kurogouchi รับหน้าที่สร้างสรรค์ ม่าน และ ฉากกั้น
การใช้เครื่องทอผ้าสมัยใหม่ ผสมผสานเข้ากับวิถีสมัยเก่าอย่างการย้อมผ้าแบบโบราณ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากประวัติศาสตร์ของตัวศาลเจ้า ในฐานะที่เป็นที่สถิตของเทพเท็นจิน และเป็น “แหล่งกำเนิดของศิลปะและวัฒนธรรม” ถือว่าเป็นการสร้างสรรค์เนื้อผ้าที่ทำได้แค่ยุคเรวะนี้เท่านั้น ตัวฉากกั้น ถูกตกแต่งด้วยรูปต้นบ๊วยอันเป็นสัญลักษณ์ของศาลเจ้า มีการไล่ระดับสีและลวดลายจากซ้ายไปขวา แสดงให้เห็นถึงการแผ่ขยายของชีวิตภายในศาลเจ้าแห่งนี้
ส่วนผ้าไหมที่ใช้ทำผ้าม่านนั้น เกิดจากการนำกิ่งบ๊วยและกิ่งการบูรที่เก็บรวบรวมจากในพื้นที่ รวมถึงรากมุราซากิอันแสนล้ำค่า มาใช้เป็นวัตถุดิบเพื่อย้อมแบบโบราณ แล้วทอร่วมกันกับเส้นใยสังเคราะห์ในยุคสมัยใหม่ การตัดเย็บที่เน้นให้เส้นด้ายร้อยเรียงต่อกันอย่างมีเอกลักษณ์เช่นนี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ตรงของคุณคุโระโกจิ ไมโกะ สื่อถึงสายฝนแห่งชีวิตที่ตกเทลงมายังศาลเจ้า อีกทั้ง ประวัติศาสตร์ของเทพเท็นจินและศาลเจ้าถูกถักทอร้อยเรียงไปสู่อนาคตได้ด้วยการผสมผสานองค์ประกอบต่างๆ บนผืนผ้า เช่น ดอกไอริสและดอกหญ้าที่บานสะพรั่งภายในศาลเจ้า
สารที่ต้องการสื่อในงานออกแบบ
คุณคุโระโกจิ ไมโกะ กล่าวว่า “นอกจากลายต้นบ๊วยที่เป็นสัญลักษณ์ของศาลเจ้าแล้ว การออกแบบและวัสดุต่าง ๆ ยังสื่อถึงตระกูลนิชิทากะทสึจิอีกด้วย บริเวณศาลเจ้ามีต้นการบูรขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านแต่ถูกฟ้าผ่าจึงมีรูขนาดใหญ่บริเวณราก ฉันได้รับอนุญาตให้เข้าไปในรูนั้น และได้ทราบมาว่าตอนเด็กท่านนิชิทากะทสึจิเองเคยเล่นซ่อนหาในรูต้นไม้นี้ด้วย แต่แล้วในตอนนั้นเองจู่ๆ ฝนก็ตกลงมา ฉันก็เลยเข้าไปหลบอยู่ด้านใน ทว่ากลับรู้สึกตื้นตันใจมากเพราะเหมือนได้รับการปกป้อง และเมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่คุณนิชิทากะทสึจิอยู่ในนั้น ฉันจึงได้ใช้พู่กันรังสรรค์ภาพ ด้วยความปรารถนาที่จะวาดทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นได้จากต้นไม้ใหญ่ รวมถึงทิวทัศน์แห่งชีวิตที่ล้อมรอบศาลเจ้าแห่งนี้” (ความคิดเห็นจากคุณคุโระโกจิ ไมโกะ)