Aston Martin Racing Asia พร้อมขึ้นแท่นผู้นำกีฬามอเตอร์สปอร์ตในไทย ตั้งเป้าคว้าชัยอันดับ 1 ในปี 2023
Aston Martin Racing Asia (AMRA) หนึ่งในระดับตำนานแห่งวงการมอเตอร์เรซซิ่งระดับโลก ประกาศความพร้อมเต็มสูบในการลงสนามก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำกีฬามอเตอร์สปอร์ตในภูมิภาคเอเชีย ที่จะเกิดขึ้นหลากหลายรายการในฤดูกาลหน้ารวมถึง การแข่งขัน Thailand Super Series ในปี 2023
เวียรอน ตัน (Weiron Tan) Principle of Aston Martin Racing Asia กล่าวว่า “เรารู้สึกภูมิใจกับผลงานในปี 2022 ที่ผ่านมา โดยกับไตรมาสสุดท้ายนั้นถือว่าเราทำได้ในระดับที่น่าพอใจสำหรับทีมที่เพิ่งเดบิวต์ในประเทศไทยเป็นครั้งแรกอย่าง Aston Martin Racing Asia ที่การรวบรวมทีมงานและรถแข่งสายพันธุ์แรงให้ลงสู่สนามถือเป็นขั้นตอนที่ซับซ้อน ทั้งการเฟ้นหานักแข่งฝีมือฉกาจอย่าง อดัม คาลิด มาร่วมปลดปล่อยขุมพลังรถคู่ใจ Aston Martin i8 Vantage GT4 หรือแม้แต่เวลาอันจำกัดในการประกอบเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนต่างๆของรถแข่งเพื่อลงสนามประลองความเร็วรายการ Thailand Super Series ในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งทีมเราก็ได้ผ่านจุดนั้นมาแล้วครับ”
“ย้อนกลับไปเดือนตุลาคมที่ผ่านมาทีม Aston Martin Racing Asia ได้ฤกษ์เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในการแข่งขันรายการ Thailand Super Series ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่ผ่านมาซึ่งถือว่าทึมเปิดตัวได้สำเร็จอย่างสวยงาม ทั้งยังถือเป็นมาตรฐานในการประเมิณทั้งนักขับรถแข่งอย่าง อดัม คาลิด และ Aston Martin i8 Vantage GT4 รถแข่งที่ทรงพลัง รวมถึงทีมงานทุกคนที่ทำผลงานโดยรวมออกมาได้เป็นอย่างดีตลอดปี 2022”
ปัจจัยสำคัญในการเลือก อดัม คาลิด นักแข่งสัญชาติมาเลเซีย มาร่วมทีมในการแข่งขันในปีนี้ ยังถือเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของทีม ถึงแม้อดัม คาลิด จะเป็นนักแข่งที่มีอายุเพียง 24 ปี หากแต่ประสบการณ์การแข่งขันนั้นโชกโชนผ่านสนามสำคัญในสายอาชีพการแข่งรถมาแล้วทั่วโลก และยังกวาดชัยชนะมาครองมากกว่า 20 รายการ ในระดับสูงสุดยังคว้าแชมป์ Malaysian Speed Festival ต่อเนื่องติดกัน 3 ปีซ้อน และ แชมป์รายการ Merdeka Endurance Race ติดต่อกัน 2 ปีซ้อน ทั้งหมดทั้งมวลที่หล่อหลอม อดัม คาลิด ให้ก้าวมาถึงจุดนี้ส่วนหนึ่งคือ นักแข่งไอคอนในระดับตำนานทั้งสาม อย่าง แดเนียล ริคเคียร์โด (Daniel Ricciardo) ไมเคิล ชูมัคเกอร์ (Michael Schumacher) และลูอิส แฮมิลตัน (Lewis Hamilton) ที่เป็นผู้จุดประกายภาพฝันของเด็กหนุ่มจากเมืองเล็กๆให้ก้าวออกมาตามฝันที่ยิ่งใหญ่ กับการที่ได้เห็นนักแข่งไอดอลของเขาทั้งในภาพยนตร์ และในสนามแข่งจริง ไม่เพียงได้เรียนรู้เทคนิคการขับที่เยี่ยมยอด หากยิ่งเกิดเป็นแรงบันดาลใจในความรักกีฬามอเตอร์สปอร์ตแก่อดัมอีกด้วย
“เราถือว่าเป็นทีมที่เยี่ยมยอด เราทุกคนในทีมต่างมีเคมีที่คล้ายกัน มีความมุ่งมั่นที่จะคว้าชัยเหมือนกัน ผมเองก็สนุกกับการทำงานได้ใกล้ชิดคลุกคลีกับทีมงาน Aston Martin Racing Asia ได้ร่วมงานกับ เวียรอน ตัน (Weiron Tan) เพื่อใช้ศักยภาพที่มีดึงพลังและความเร็ว ความแรงของรถออกมาได้อย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งในขณะนี้เรายังปรับปรุงทุกส่วนไปจนถึงเวลาที่เพิ่มขึ้นในระดับมิลลิวินาทีครับ”
“ในส่วนของ Aston Martin i8 Vantage GT4 นั้น ถือว่าเป็นรถแข่งที่ผมคุ้นเคยอยู่แล้ว นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ลองในสหราชอาณาจักรกับ เครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร ขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนที่ได้รับการปรับปรุง รวมถึงการปรับตกแต่งรายละเอียดทั้งหมดให้ผมได้ระเบิดขุมพลังได้อย่างมั่นใจ พุ่งทะยานสู่เส้นชัย ด้วยความมั่นใจ” อดัม คาลิด กล่าว
Aston Martin i8 Vantage GT4 ถือเป็นอสูรตัวร้ายแห่งความเร็ว ที่มาพร้อมกับขุมพลังสุดแกร่งด้วยเครื่องยนต์ 4.0 litre twin-turbocharged V8 engine กำลัง 475 แรงม้าและแรงบิดมากกว่า 550 นิวตันเมตร เครื่องยนต์ที่ยอดเยี่ยม พร้อมคู่เกียร์ที่ทำงานด้วย Six-speed paddle shift-operated transmission และ a mechanical plate และ Ramp differential มีระบบไอเสียแบบท่อตรงและชุดระบายความร้อนแบบพิเศษเพื่อใช้สำหรับสภาพอากาศร้อนซึ่ง สำคัญและจำเป็นมาก กับสภาพอากาศในภูมิภาคการแข่งขันแห่งนี้ เบรคเป็นรุ่นพิเศษ Alcon มาพร้อมคาลิปเปอร์ 6 ลูกสูบที่ด้านหน้า และคาลิปเปอร์ 4 ลูกสูบที่ด้านหลังเพื่อใช้สำหรับการแข่งขัน ดิสก์เบรกแบบสองชิ้นแบบมีช่องระบายอากาศ ด้านหน้าขนาด 380 มม. และด้านหลัง 343 มม. ด้วยความพิเศษทั้งมวล i8 Vantage GT4 จึงถือเป็นรถอย่างเป็นทางการของ Aston Martin Racing Asia และได้รับการสนับสนุนโดยผู้ผลิต ทั้งทางด้านงานพัฒนา (R&D), เทคโนโลยีล่าสุด, การสนับสนุนด้าน วิศวกรรมและกลไกที่มีเฉพาะใน Aston Martin Racing Asia เท่านั้น