ZARA เปิดตัวแฟลกชิฟสโตร์คอนเซปต์ใหม่ล่าสุดแห่งแรกในไทย ณ ใจกลางเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต
ร้านคอนเซปต์ใหม่ของ Zara (ซาร่า) ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต นำเสนอคอลเลคชันล่าสุดในรูปแบบอันโดดเด่น ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของแบรนด์ โดยได้ผสานเครื่องมือทางเทคโนโลยีหลายรูปแบบเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ช้อปปิ้งอย่างสมบูรณ์แบบบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของแบรนด์
Zara ปักหมุดเมืองอันเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก เผยโฉมร้านคอนเซปต์ใหม่แห่งแรกในไทย ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต บนพื้นที่กว่า 1,300 ตารางฟุต โดยร้านแห่งนี้ได้เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 2011
ร้านคอนเซปต์ใหม่ของ Zara นำเสนอนวัตกรรมทางเทคโนโลยีล่าสุด โดยผสานแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์เข้ากับหน้าร้านแบบบูรณาการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ในปัจจุบันของ Inditex และ Zara ในการให้บริการหน้าร้านไปพร้อมกับการเลือกใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ด้านแฟชั่นอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน โดยแบรนด์ให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่อย่างสมบูรณ์แบบ
ภายในร้านตกแต่งด้วยสีขาวสะอาดตา เพิ่มเติมให้ร้านมีชีวิตชีวาขึ้นด้วยสีสันและความอบอุ่นจากเฟอร์นิเจอร์ไม้และโทนสีธรรมชาติของสิ่งทอ และนำเสนอคอลเลคชันสำหรับผู้หญิงและผู้ชายไว้ให้เลือกสรรอย่างครบถ้วน
นวัตกรรมในการให้บริการลูกค้า
Zara สาขา เซ็นทรัล ภูเก็ต แห่งนี้ นำเสนอแนวคิดการช้อปสำหรับแฟลกชิฟสโตร์ขนาดใหญ่ โดยผสานเครื่องมือทางเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งรวมการเลือกซื้อสินค้าหน้าร้านเข้ากับแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้นผ่านแอปพลิเคชันของแบรนด์ ได้แก่ บริการจองห้องลองชุด การค้นหาสินค้าในการสั่งซื้อและรับสินค้าภายใน 2 ชั่วโมง และตรวจสอบสต็อกสินค้า โดยที่ร้านยังมีผู้ช่วยสำหรับดูแลลูกค้าที่ทำการสั่งซื้อสินค้าบนช่องทางออนไลน์อีกด้วย
นอกจากนี้ ในด้านสิ่งแวดล้อม แบรนด์ยังได้เลือกใช้ระบบประหยัดพลังงานที่ทันสมัยที่สุด ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ของ Zara ในเรื่องความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูง การใช้ไฟ LED เพื่อการประหยัดพลังงานที่มากขึ้น และการเลือกใช้วัสดุที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยลง รวมไปถึงการใช้ซ้ำและการรีไซเคิลเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน และเพื่อลดของเสียจากการใช้วัสดุต่างๆ ซึ่งการเดินหน้าเชิงรุกอย่างต่อเนื่องเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมครั้งนี้เริ่มต้นมาจากการตั้งเป้าหมายและทิศทางการดำเนินงานอย่างเป็นระบบของแบรนด์