เปิดตัว McLaren Elva ไฮเปอร์คาร์ 200 ล้าน
0
0
เพราะมูลค่าไม่ธรรมดา แถมทั่วโลกมีเพียง 149 คัน! และในประเทศไทยมีเพียง 2 คันเท่านั้น!! McLaren Elva (แมคลาเรน เอลวา) โดย คุณวิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ แมคลาเรน ประเทศไทย จึงจัดงานดินเนอร์สุดหรู บน track ของสนามพีระเซอร์กิตเป็นครั้งแรก ให้สมกับที่ไฮเปอร์คาร์สมรรถนะสูงในตระกูล Ultimate Series ได้เดินทางจากสหราชอาณาจักร มาเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทยเช่นกัน
งานนี้จึงจัดแบบ Sit-down dinner ท่ามกลางบรรยากาศรายล้อมด้วยรถสุดหรูจาก McLaren รุ่นต่างๆ อาทิ McLaren Elva, McLaren Artura, McLaren GT และ McLaren 720s ภายในงานเต็มไปด้วยแขกผู้มีเกียรติ ร่วมยลโฉมและทดสอบสมรรถนะ Exclusive Test Drive Performance เป็นกลุ่มแรกในเมืองไทย นำโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, วรพจน์ พรประภา, ทวี จงควินิต, กิตติพันธ์ พูลวรลักษณ์, คมสัณห์ ฐานะโชติพันธุ์, เอกภัทร พรประภา, จรัสพงศ์ พรปริญญา ฯลฯ
นายวิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ McLaren Bangkok เปิดเผยว่า “ซูเปอร์คาร์ คือ สุดยอดยานยนต์ที่เหนือกว่ายานยนต์ทั่วไป เปี่ยมด้วยสมรรถนะ แรงม้าสูง มีความแรงและความเร็ว ตอบสนองเร้าใจ มาพร้อมเสียงคำรามกระหึ่มของเครื่องยนต์กระตุ้นอารมณ์ ให้ความสนุกสนานในการขับขี่เหนือคำบรรยาย ดังเช่น McLaren Elva ไฮเปอร์คาร์สมรรถนะสูงจากค่ายแมคลาเรน แต่ความโดดเด่นของรถยนต์คันนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความเร็วและแรงเท่านั้น ยังมาพร้อมดีไซน์การออกแบบสุดแหวกแนว ทุกอย่างคือเทคโนโลยีขั้นสุด ทั่วโลกมีเพียง 149 คัน โดยรถทุกคันจะมีรายละเอียดพิเศษ ถือว่าเป็นการ custom-made โดยไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละคัน
โดยรถยนต์ McLaren Elva คือไฮเปอร์คาร์โรดสเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุดจากค่ายแมคลาเรน เป็นรุ่นรถยนต์ลำดับที่สาม ในไลน์การผลิตประเภท Ultimate Series ต่อจากรุ่น Senna และ Speedtail มาพร้อมขุมกำลังสุดโหด และดีไซน์สุดแหวกแนว เพราะไม่มีทั้งหลังคาและกระจกบังลมรอบคัน วัตถุประสงค์ก็เพื่อมอบความสนุกสนานในการขับขี่อย่างถึงที่สุด ให้ผู้ขับขี่ได้ยินเสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ได้อย่างถึงใจถึงอารมณ์ ฟีลเดียวกับได้ซิ่งรถ F1 ในสนามแข่งขัน ที่สำคัญสามารถ connect ระหว่าง เรา (คนขับ) รถ และบรรยากาศภายนอกได้มากขึ้น เพราะไม่มีอะไรมาขวางกั้น มากไปกว่านี้รถยนต์คันนี้ผลิตในจำนวนจำกัด เพียงแค่ 149 คันในโลกและในเมืองไทยมีเพียง 2 คันเท่านั้น”
สำหรับความประทับใจที่มีต่อ McLaren Elva แขกทุกท่านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รุ่นนี้เป็นรถ Open-Cockpit สองที่นั่ง มาพร้อมแชสซีและตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ที่ทำพิเศษสุด ให้ความอิสระเพราะปราศจากหลังคา กระจกหน้าและหน้าต่างด้านข้าง สามารถกระตุ้นการรับรู้ของผู้ขับขี่ได้อย่างเต็มที่ ถือเป็นยนตรกรรมสำหรับท้องถนน (Road Car) น้ำหนักเบาที่สุด และสมรรถนะอันน่าทึ่งในทุกๆ ด้านอย่างแท้จริง
