ชวนเที่ยวงาน “มหาธาตุ มหาธรรม นำสุข” ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ 27 ธ.ค. 67 – 2 ม.ค. 68
ปลายปีนี้ หากยังไม่มีที่หมายสำหรับทำบุญ ชมวัด ขอแนะนำวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ที่ครบครันทั้งความอิ่มบุญ อิ่มใจ และอิ่มท้องในที่เดียว..
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชิญชวนเที่ยวงาน “มหาธาตุ มหาธรรม นำสุข” ในวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2568 รวม 7 วัน 7 คืน ตั้งแต่เวลา 08.00 -22.00 น. ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ พระอารามหลวงแห่งแรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ภายในงานมีไฮไลท์คือการเปิดให้ชม “พระแสงราวเทียน” ที่สุดยิ่งใหญ่ในเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อีกครั้ง หลังจากได้เปิดให้เข้าชมในงานเฉลิมฉลองสมโภชพระอาราม 338 ปี ที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เมื่อปลายปี 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการค้นพบครั้งสำคัญ หลังจากพระแสงราวเทียนได้หายจากวัดไปยาวนานเกือบ 70 ปี และได้กลับคืนมาอีกครั้ง
พระแสงราวเทียน นับเป็นสมบัติล้ำค่าของชาติ โดยในวันที่ 28-29 ธันวาคม 2567 เวลา 10.00-12.00 น. และ 14.00-16.00 น. จะมีการนำชมและบรรยายโดยวิทยากรพิเศษ อจ.ปริญญา สัญญะเดช นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญศาสตราวุธ ผู้ทราบเบาะแสและตามหาพระแสงราวเทียนจนพบ
“บัดนี้การจัดทำตู้นิรภัยสำหรับพระแสงราวเทียน ได้จัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงพร้อมที่จะนำมาให้สาธุชนได้ชมอีกครั้ง หลังจากการเปิดให้เข้าชมในปี 2566 มีผู้เข้าชมจำนวนมาก”
พระแสงราวเทียนนี้ เป็นพระแสง(ดาบ)ประจำพระองค์ ของสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท กรมพระราชวังบวรสถานมงคล พระอนุชาธิราชในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช หรือวังหน้าพระยาเสือ พระแสงเล่มนี้ได้ผ่านศึกสงครามในการกอบกู้ชาติบ้านเมืองมาอย่างยาวนาน โดยทรงร่วมศึกสงครามขับไล่อริราชศัตรูปกป้องพระราชอาณาจักรตลอดพระชนมชีพของพระองค์ ได้เสด็จไปในการพระราชสงครามทั้งทางบก และทางเรือ ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ถึง 16 ครั้ง และในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช อีก 8 ครั้ง
ต่อมาเมื่อคราวที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ทรงพระประชวร ได้ตั้งสัตยาธิษฐานถวายพระแสงเปลี่ยนเป็นราวเทียน อันเป็นการยุติการทำศึกสงครามสังหารศัตรูทั้งปวง โดยเมื่อจะทำให้เป็นราวเทียนบูชา ก็ได้ลบปลาย ลบคม และถอดด้ามออก ตกแต่งเป็นเศียรและหางนาคตามพระราชนิยม มีพระราชประสงค์จะตัดขาดจากการรบราฆ่าฟัน ที่ต้องทรงกระทำมาตลอดพระชนม์ชีพ ดาบจึงถูกทำให้หมดคมสิ้นสภาพความเป็นอาวุธ เปลี่ยนเป็นราวเทียนให้แสงแห่งปัญญา ถวายเป็นพุทธบูชาหน้าพระประธานในพระอุโบสถสืบไป
ภายในงาน “มหาธาตุ มหาธรรม นำสุข” ยังมีการจำหน่ายอาหารอร่อย ตลาดนัดชุมชน ฉายหนังกลางแปลง ชมไฟประดับสวยงาม ซึ่งวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์เป็นหนึ่งในงานอารามอร่าม ที่กระทรวงวัฒนธรรมได้เชิญชวน เยี่ยมชมความงดงามของวัดยามค่ำคืนที่ประดับประดาด้วยแสงไฟสุดอลังการ 11 วัด 1 โบสถ์พราหมณ์ และ 1 พิพิธภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีการสาธยายพระไตรปิฎกถวายเป็นพุทธบูชา ตั้งแต่เวลา 18.00-19.30 น. ภายในพระอุโบสถตลอด 7 วัน
พร้อมกันนี้ขอเชิญทุกท่านชม 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด ได้แก่
1) หลวงพ่อหิน พระประธานในอุโบสถวัดสลัก (ชื่อเดิมของวัดมหาธาตุ) ตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา
2) พระศรีรัตนมหาธาตุเจดีย์ (พระเจดีย์ทอง) ในพระมณฑป ซึ่งสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท เมื่อสถาปนาพระอาราม ปี พ.ศ. 2326 ทรงสร้างพระมณฑปปิดทองร่องกระจก สูง 10 วา บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้
3) พระศรีสรรเพชญ์ พระประธานในพระอุโบสถวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เป็นพระพุทธรูปที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทให้ความเคารพศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง
4) พระบวรราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท พระหัตถ์ทั้งสองยกพระแสงดาบเหนือพระอุระ เพื่อจบถวายเป็นพุทธบูชา ภายในฐานบรรจุเนื้อดินซึ่งเก็บจากแผ่นดินที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท เสด็จกรีธาทัพทั้งสิ้น 28 แห่ง
5) ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นต้นโพธิ์ที่พระโคตมพุทธเจ้าเคยประทับและตรัสรู้ โดยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้นำหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ เมืองอนุราธปุระ มาปลูกไว้ที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เมื่อปี พ.ศ. 2361 ปัจจุบันต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ มีอายุ 206 ปี
ภายในวัดยังมีสิ่งน่าสนใจอื่นๆ เช่น พระอุโบสถที่ใหญ่ที่สุดในพระนคร, วิหารโพธิ์ลังกา เป็นพระวิหารน้อย สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 และเคยเป็นตำหนักที่ประทับเมื่อครั้งทรงผนวช, ตึกแดงหรือตึกถาวรวัตถุ และหอสมุดวชิราวุธ สถาปัตยกรรมสำคัญของอาคารก่ออิฐถือปูนสมัยรัชกาลที่ 5, พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ มกุฎราชกุมารพระองค์แรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์, อาคารเบญจมราชวรานุสรณ์ (สถานปฏิบัติธรรม ศูนย์วิปัสสนานานาชาติ), ตำหนักสมเด็จพระสังฆราช, แผ่นศิลาจารึกดวงชะตา สมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นหลักฐานสำคัญเก่าแก่ที่สุด เป็นเครื่องแสดงว่าวัดมหาธาตุฯ มีอายุ 339 ปี, พระแท่นบรรทมสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท
พิพิธภัณฑ์โบราณวัตถุ คัมภีร์พระไตรปิฎกที่ได้ทำการสังคายนาในสมัยรัชกาลที่ 1 (ปี พ.ศ.2331) และผ้าห่อคัมภีร์ใบลานเก่าแก่, พระรูปสมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) อดีตเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เป็นต้น
จึงขอเชิญชวนเข้าร่วมและท่องเที่ยวงาน “มหาธาตุ มหาธรรม นำสุข” ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ในวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2568 และเชิญชวนร่วมสวดมนต์ข้ามปีในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2567 เริ่มเวลา 22.00 น. ภายในพระอุโบสถ และวันที่ 1 มกราคม 2568 เวลา 07.00 น. ตักบาตรพระสงฆ์ 68 รูป ต้อนรับปีใหม่ บริเวณด้านหน้าพระมณฑป รับบุญหนุนดวงในช่วงปีใหม่
นอกจากนี้ในงานยังมีตลาดชุมชน ไหว้พระ อิ่มบุญ อิ่มใจ แล้วอิ่มท้อง ขอเชิญทุกท่านช้อป ชิม ชิล ณ โซนด้านพระศรีมหาโพธิ์ ทางผู้จัดงานได้ยกความอร่อยมาไว้ในงาน เช่น ขนมจีน ขนมหม้อแกง ข้าวหลาม ขนมจาก ถั่วทอด ข้าวเกรียบ ไก่ย่าง กาแฟโบราณ ข้าวเหนียวมะม่วง ขนมไทยต่างๆ โรตีสายไหม ไส้อั่วและน้ำพริกหนุ่ม ข้าวเกรียบว่าว ขนมเบื้องโบราณ หมี่กรอบ เกี๊ยวเด้ง ลูกชิ้นปิ้ง แหนมปลากราย จ๊อปู ผัดไทย ฯลฯ รวมถึงงานคราฟท์ต่างๆ เช่นตอกหนังตะลุง เซรามิกและเครื่องปั้นดินเผา รวมถึงโซนนวดและตอกเส้น
พร้อมชมหนังกลางแปลงระบบเตาถ่านโบราณจาก Thanapong Cinema ซึ่งหาชมได้ยากแล้วในเมืองไทย เพราะหนังกลางแปลงกับงานวัดนั้นเป็นของคู่กัน ทุกคืนตลอดงานจะมีหนังแนวโบราณหนึ่งเรื่องแนวสมัยใหม่หนึ่งเรื่อง
จึงขอเชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมงานดังกล่าว
ประชาสัมพันธ์วัด คุณสาธิตา 081-817-2805
#มหาธาตุมหาธรรมนำสุข
#การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย