ประเทศไทยตอกย้ำการเป็น “ครัวของโลก” การันตีด้วยเชฟระดับโลกในงาน Dinner Incredible
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สนับสนุนการจัดงาน Dinner Incredible พร้อมตอกย้ำประเทศไทยเป็น “ครัวของโลก” The Diplomat Network และพาร์ทเนอร์หลักของงานได้จัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา งานอีเวนต์สุดพิเศษ Dinner Incredible ภายใต้คอนเซปต์ “Global to Local Experience” ณ ห้องประชุมแกรนด์ สตูดิโอ โรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ
โดยงานนี้จะเป็นการรวมตัวของคณะเชฟผู้มีเกียรติถึง 13 คนจากทุกทวีปทั่วโลก รวมดาวประดับยศแล้วมากถึง 15 ดาวด้วยกัน ทุกท่านได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ณ สถานที่จัดงาน ตามมาตรการของรัฐอย่างเคร่งครัด
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ กล่าวว่า “เพราะเราเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยวัตถุดิบและอาหารที่มีความหลากหลายมีคุณภาพสูง รสชาดดั้งเดิมที่มาจากพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทย ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การสร้างเสน่ห์ปลายจวักด้วยอาหารไทย นอกจากนี้เอกลักษณ์ของอาหารและผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นของไทย เป็นเครื่องมือที่ผลักดันให้ชุมชนท้องถิ่น ได้ใกล้ชิดและเข้าถึงเชฟจากประเทศต่างๆ รวมถึงนักเดินทางทั่วโลกที่ชื่นชอบอาหารไทยได้มากยิ่งขึ้น
ชั้นเชิงและทักษะด้านการทำอาหารจากเชฟชั้นนำ จะช่วยตอกย้ำจุดเด่นและสร้างชื่อเสียงของอาหารไทยให้ก้าวไปอีกขั้น พร้อมทั้งสร้างความภาคภูมิใจของชาติไทยในเรื่องอาหาร ทีเส็บเป็นหนึ่งในองค์กรภาครัฐบาลที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ ทีเส็บมีความเชื่อมั่นว่าในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบได้นั้น งานพัฒนาที่สำคัญอย่างหนึ่งของเราคือ การยกระดับความสามารถของผู้ประกอบการไมซ์ให้สามารถจัดงานอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบในทุกมิติ ซึ่งรวมถึงมิติการให้บริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม ในการสนับสนุนด้านความยั่งยืน
ทีเส็บไม่ได้เป็นเพียงผู้นำในการสนับสนุนวัตถุดิบของท้องถิ่นสำหรับอาหารไทย แต่ยังมีเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมไมซ์ของเรา เป้าหมายของเรารวมถึงการลดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมและกำจัด “ขยะอาหารให้เป็นศูนย์” การบรรเทาวิกฤตสภาพภูมิอากาศ และพัฒนาให้เกิดผลกระทบเชิงบวกสนับสนุนการทำเกษตรอินทรีย์ สร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืนสำหรับผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นและวัตถุดิบตามฤดูกาล
งาน “Dinner Incredible” จะสามารถเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงสิทธิภาพและขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งดำเนินการผ่านการสร้างจิตสำนึกและการพัฒนาศักยภาพที่จะได้รับการสนับสนุนจากเชฟมิชลินสตาร์และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทุกๆ ภาคส่วน ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนงาน ทีเส็บอยากจะขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เมื่อเราร่วมกันทำงาน รางวัลและความสำเร็จคือผลงานของพวกเราทุกคน – รางวัลที่ได้มาคืออาหารที่ปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการ อาหารที่ได้มาตรฐาน ผ่านการดำเนินการด้านสวัสดิภาพแรงงานของทุนมนุษย์และสัตว์ที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ผลตอบแทนหรือความสำเร็จที่ช่วยให้ธุรกิจฟาร์มของครอบครัวในพื้นที่ชนบทต่างๆ กลับมามีพลัง และรางวัลที่เปลี่ยนเป็นสภาพอากาศที่ดีขึ้น สภาพดินและแม่น้ำที่อุดมสมบูรณ์ และการดำรงไว้ซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพที่อุดมสมบูรณ์ต่อไปในอนาคต
คุณ แพททริค โบท ผู้จัดการทั่วไปในกลุ่มโรงแรมลักชัวรี่และไลฟสไตล์ประจำประเทศไทย และ ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ และ โรงแรมสินธร มิดทาวน์ พูดถึงความพิเศษของโรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ สถานที่จัดงาน ที่มีสเตชั่นทำอาหารถึง 6 สเตชั่น รวมถึงครัวร้อนอีก 2 ครัวด้วยกัน พร้อมกับการบริหารงานอย่างมืออาชีพ เพื่อให้เชฟทุกท่านและทีมสามารถทำงานได้สะดวก ทัดเทียมระดับโลก ภายใต้ความสะดวกสบายของใจกลางเมืองกรุงเทพมหานครฯ
คุณพันธจักร ว่องปรีชา หนึ่งในพาร์ทเนอร์หลักของการจัดงาน Dinner Incredible ในประเทศไทย และผู้ก่อตั้ง The Diplomat Network ผู้นำในการจัดงานอีเว้นท์ระดับโลก ได้แบ่งปันเรื่องราวน่าประทับใจในระหว่างการเตรียมงานครั้งนี้ ท่ามกลางสภาวะความผันผวน VUCA World โลกยุคใหม่ที่ต้องพร้อมตั้งรับและปรับตัวให้สามารถแก้ไขตามสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที ความมุ่งหมายในการจัดงาน คือ งาน Dinner Incredible ในครั้งนี้ว่า ไม่ได้เป็นเพียงงานดินเนอร์หรือไฟน์ไดน์นิ่งทั่วไป แต่เป็นปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ของวงการอาหารและเป็นครั้งแรกในเอเชียที่รวบรวมเชฟ 13 คนจากทุกทวีปทั่วโลก รวมดาวมิชลินทั้งหมด 15 ดวงและเชฟผู้คว้ารางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อให้โลกรู้ว่าประเทศไทยนั้นพร้อมแล้วสำหรับการเป็นศูนย์กลางในด้านอาหาร ภายใต้พื้นฐานแนวคิดอย่างอาหารโฮมเมดจากวัตถุดิบออร์แกนิกส์ (Farm-to-table), การลดขยะเป็นศูนย์ (Zero waste) และจากระดับท้องถิ่นสู่ระดับสากล
อีกทั้งยังได้กล่าวถึงอุปสรรคในการดูแลการประสานงานการจัดงานทั้งในและต่างประเทศกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่ในที่สุดก็ผ่านพ้นไปได้จากความร่วมมือของทีมงานทุกฝ่าย และกล่าวถึงความประทับใจในขั้นตอนการเตรียมงานจากวันแรกจนถึงปัจจุบันว่า เมื่อ 4 อาทิตย์ก่อน ตั้งแต่ได้รับเกียรติจากเชฟจิออร์จิโอและเชฟหนุ่มในการเป็นพาร์ทเนอร์ของงานนี้ อุปสรรคมากมายก็ถาโถมเข้ามาด้วยความกระชั้นชิด แต่หากเทียบกับสิ่งน่าอัศจรรย์มากมายที่ได้เกิดขึ้นแล้ว มันคุ้มค่าอย่างหาเทียบไม่ได้ ทั้งมิตรภาพจากการทำงานร่วมกับเชฟระดับโลกและพาร์ทเนอร์ทุกท่าน และได้กล่าวขอบคุณทีมงานทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันทำให้งานนี้สำเร็จได้
เชฟ Giorgio Diana ผู้ก่อตั้งงาน Dinner Incredible พูดถึงแรงบันดาลใจในการจัดงาน รวมถึงจุดเริ่มต้นในวางแผนจัดงานที่ประเทศไทย และ เชฟหนุ่ม ธนินธร จันทรวรรณ จากร้านชิม บาย สยาม วิสดอม ผู้ถือลิขสิทธิ์งาน Dinner Incredible ประจำภูมิภาคเอเชีย แรงบันดาลใจในการที่เชฟจากนานาชาติร่วมใจกันใช้วัตถุดิบท้องถิ่นไทย สนับสนุนผลิตภัณฑ์จากเกษตรกร ส่งเสริมพืชผักผลไม้ออร์แกนิกส์ และไข่จากการเลี้ยงแบบไร้กรง หรือ Free Range Eggs ในการปรุงอาหาร
ทั้งนี้เชฟหนุ่ม ยังได้กล่าวเสริมถึงความท้าทายในช่วงวิกฤติโควิด-19 ต่อธุรกิจเครือร้านอาหาร หรือ Food and Beverage Industry ในเวลาสองปีที่ผ่านมา โดยร้าน “ชิม บาย สยาม วิสดอม” ของเชฟหนุ่ม แทบจะปิดร้านอยู่ตลอด และรับเฉพาะลูกค้าที่นัดหมายส่วนตัวเท่านั้น และนอกจากนั้น เชฟยังพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยร่วมมือกับ คุณพันชนะ วัฒนเสถียร ผู้ก่อตั้งโครงการ Food For Fighters และนายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ ในการทำข้าวกล่องส่งให้ทั้งบุคลากรทางการแพทย์และส่งให้กับชุมชนต่าง ๆ โดยที่ทีมงานทุกคนล้วนเป็น “จิตอาสา” ทั้งสิ้น
โดยเชฟหนุ่มและคุณพันชนะได้สนับสนุนกิจกรรมช่วยเหลือสังคม เนื่องมาจากความเข้าใจสถานการณ์ ที่ในช่วงวิกฤติโควิด-19 เชฟไม่ว่าจะเปิดร้านอาหารระดับใดรวมถึงผู้ประกอบการในทุกธุรกิจล้วนได้รับผลกระทบทั้งสิ้น รวมถึงเยาวชนและนักเรียนนักศึกษาเองที่ต้องศึกษาบนช่องทางออนไลน์มาตลอดสองปี ก็ไม่มีโอกาสได้เปิดประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านการลงมือสื่อสารกับคนในสถานการณ์การทำงานจริงเลย จึงต้องการให้โอกาสเยาวชนในการลงมือทำงานที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายต่อทั้งตนเองและสังคม ในงานต่าง ๆ ของโครงการ Food For Fighters ด้วย
นางอรชร ว่องพรรณงาม ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าวทิ้งท้ายว่า “สสปน. มีกิจกรรมเพื่อรณรงค์ความรับผิดชอบด้านความยั่งยืนหลายด้าน โดยยึดเป้าหมายหลักของการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) เพื่อยกระดับคุณภาพสถานที่จัดงาน ผู้จัดงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผ่านมาตรฐาน และกิจกรรมให้องค์ความรู้ พร้อมให้การสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญในแต่ละโครงการ อาทิ 1.) มาตรฐานด้านการบริหารการจัดงานอย่างยั่งยืนประเทศไทย หรือ Thailand Sustainable Event Management Standard: TSEMS 2.)โครงการ Farm to Functions การสนับสนุนสินค้าอินทรีย์ สู่ผู้จัดงาน และสถานที่จัดงานตรง 3.) โครงการ Food Waste Prevention การลดขยะของเสียจากการให้บริการอาหาร จะช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุน (cost saving) และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ในเวลาอันสั้น 4.) โครงการลดใช้ขวดน้ำพลาสติกในการประชุม (NO Plastic) เพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 5.) โครงการ RFBO – Responsible Food & Beverage Operations การบริหารจัดการอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อควบคุมบริหารจัดการไม่ให้เกิดการสูญเสียและเป็นขยะอาหาร 6.) โครงการ “ยกระดับธุรกิจไมซ์สู้วิกฤตลดโลกร้อน” Carbon Reduction เพื่อเป็นการยกระดับขีดความสามารถขององค์กร ส่งเสริมการจัดงานไมซ์เพื่อลดก๊าซเรือนกระจกในปริมาณระดับหนึ่ง โดยสามารถคำนวณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการให้บริการ ซึ่งการสนับสนุนดังกล่าวของ สสปน. ด้านมาตรฐานและโครงการทั้งหมดจะนำไปสู่การเป็นผู้นำด้านการจัดงานไมซ์อย่างยั่งยืน พร้อมตอกย้ำการวางเป้าหมายประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการจัดงานอย่างยั่งยืนในเอเชียนับเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยให้อุตสาหกรรมไมซ์เตรียมความพร้อมรับนักธุรกิจไมซ์ในอนาคตได้อย่างมั่นคงต่อไป”
#DinnerIncredible #DinnerIncredibleTH #PlayGlobalEatLocal #24hands1heart #SiamGastroPhenomena #CulinaryWisdomInBKK #WorldClassDiningExperience #KimptonMaalaibangkok #SilverVoyageClub
#FoodForFighters #TheDiplomatNetwork #KeithandKymconcepts #ChimbySiamWisdom #ZeroWaste