วิศวฯ จุฬาฯ พลิกบทบาทสู่ผู้นำการจัดการด้านคาร์บอน ประกาศความร่วมมือองค์กรชั้นนำ จัดโครงการ CHULA LEARN – DO – SHARE PLUS หวังแก้เกมโลกรวน!

0 0
Read Time:5 Minute, 50 Second

คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมมือกับมูลนิธิอรุณ สรเทศน์ และสถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน เปิดตัว “โครงการ Chula Learn-Do-Share Plus” พร้อมบรรยายพิเศษ “จาก COP 29 สู่แนวทางการดำเนินงาน: ก้าวต่อไปของ SMEs ไทย” เพื่อร่วมขับเคลื่อนการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยได้รับเกียรติจากกลุ่มองค์กรและบุคลากรชั้นนำ อาทิ รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคุณวีระวัฒน์ ชลายน ประธานกรรมการมูลนิธิอรุณ สรเทศน์ โดยกิจกรรมดังกล่าวมีเป้าหมายสร้างแรงผลักดันให้เกิดการเสริมสร้างขีดความสามารถของบุคลากรในองค์กร เพื่อการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการลดก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดบุคลากรในองค์กรที่มีทักษะจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมที่กำลังทวีความรุนแรงในปัจจุบัน

รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความสำคัญและตระหนักถึงหลากหลายการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในมิติของสิ่งแวดล้อม จึงพร้อมที่จะส่งต่อองค์ความรู้และปลุกแรงบันดาลใจให้กับนิสิต บุคลากรเพื่อสรรค์สร้างนวัตกรรมแห่งอนาคตสำหรับการรับมือกับปัญหาโลกร้อน ทั้งนี้ จึงได้ เปิดตัว “โครงการ Chula Learn-Do-Share Plus” รวมถึงจัดให้มีการรายงานผลการดำเนินงานของสถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน ซึ่งนำโดย ศ.ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล ประธานกรรมการสถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน และประกาศความร่วมมือระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม สถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน และภาคีเครือข่ายเพื่อร่วมพัฒนาองค์ความรู้ หลักสูตรการอบรม แนวปฏิบัติที่ดีควบคู่กับการบริหารจัดการข้อมูล และกิจกรรมที่สนับสนุนให้เกิดการเสริมสร้างขีดความสามารถ (Capacity building) ให้กับบุคลากรในองค์กรในด้านการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ผ่านการประสานความร่วมมือของกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน และภาคีเครือข่าย

“โครงการ Chula Learn-Do-Share Plus” มีเป้าหมายส่งต่อองค์ความรู้และสร้างประสบการณ์ในการประเมิน Carbon footprint และการบริหารจัดการอย่างเหมาะสม ให้กับคณาจารย์ นิสิตนักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป รวมถึงการรายงานผลการดำเนินงานของสถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน (CBiS) อาทิ การสนับสนุนเพื่อดำเนินการเพื่อขึ้นทะเบียนคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (CFO) ของคณะวิศวฯ จุฬาฯ ในปี 2567 การพัฒนา Application CFID และ CFOL เพื่อช่วยในการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในชีวิตประจำวันและองค์กร ตามลำดับ การจัดหลักสูตรอบรมด้าน Climate change ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น หลักสูตร Net Zero CEO Leadership program รุ่นที่ 1 ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย เป็นต้น”

ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กรมฯ เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ซึ่งหนึ่งในแนวทางที่สำคัญคือการปลุกภาคเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และส่วนอื่นๆ ให้เกิดการทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน ดังนั้น เพื่อให้โครงการดังกล่าวเกิดผลสัมฤทธิ์ จึงได้แลกเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภาคนโยบาย ผ่านประเด็น “จาก COP 29 สู่แนวทางการดำเนินงาน: ก้าวต่อไปของ SMEs ไทย” เพื่อให้เห็นถึงความท้าทายของธุรกิจ SMEs ในประเทศไทย ที่หลังจากนี้จะเป็นเรื่องของการมุ่งดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG ซึ่งล้วนมาจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ทิศทางการลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล รวมถึงมาตรการทางการค้าต่าง ๆ เช่น CBAM จากความท้าทายเหล่านี้ นำมาสู่แนวทางการปรับตัวของธุรกิจ SMEs เพื่อเตรียมความพร้อมและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาด ซึ่งจะต้องเกิดการวางแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต การประเมิน CFO และ CFP ขององค์กร เสมือนเป็น New Normal ในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการลงทุนเพื่อปรับเปลี่ยนกระบวนการใช้พลังงานหรือเทคโนโลยีภายในองค์กร โดยมีกลไกและมาตรการส่งเสริมจากส่วนกลาง ได้แก่ มาตรการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรม การสนับสนุนเงินทุนในการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรอุปกรณ์ สิทธิประโยชน์และแรงจูงใจ และสินเชื่อสีเขียว รวมถึง ผลกระทบจากนโยบายของประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ที่ได้ประกาศให้สหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงปารีส โดยจะระงับเงินอุดหนุนแก่กองทุนภูมิอากาศสีเขียว 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นความท้าทายของประเทศไทยที่ยังคงต้องเดินหน้าเตรียมความพร้อมรับมือกับการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ยากขึ้น รวมถึงการปรับตัวต่อกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมของยุโรป

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวเสริมว่า ประเทศไทยมีการเก็บข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมมาในระยะหนึ่ง และมีข้อมูลในระดับที่ใช้งานได้ สิ่งสำคัญคือ การเลือกข้อมูลมาใช้ประโยชน์ ในส่วนของการศึกษาและวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีความท้าทายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นระบบของโลกที่มีความซับซ้อน รวมถึงการบูรณาการระหว่างวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องข้อจำกัดของการได้มาซึ่งข้อมูล ความไม่ต่อเนื่องของข้อมูล การเผยแพร่และถ่ายทอดข้อมูลออกสู่สาธารณะเพื่อสร้างความเข้าใจตรงกัน สิ่งสำคัญ คือ ข้อมูล หากไม่มีข้อมูล ส่งผลให้ไม่สามารถบริหารจัดการได้ ซึ่งประเด็นนี้เป็นสิ่งที่ต้องปรับปรุง ว่าจะทำอย่างไรให้ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น

“Ecosystem ที่จำเป็นต่อการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีข้อมูลเพื่อการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประเด็นสำคัญ กล่าวคือ นโยบายของภาครัฐที่ต้องชัดเจน มีการทำ simulation ให้เห็นภาพ ว่าหากธุรกิจทำแล้ว จะเกิดประโยชน์อย่างไร และหากไม่ทำ จะเกิดผลเสียอย่างไร การสร้างคนหรือทีมงานที่จะมารองรับในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีข้อมูล ซึ่งในส่วนนี้ มหาวิทยาลัยเป็นส่วนสำคัญ นอกจากนี้ต้องมีการสร้าง solution หรือ start-up ที่สอดรับในด้านนี้ และมีการสร้างความร่วมมือในการสร้าง network”

ทั้งนี้ ยังมีการเสวนาวิชาการหัวข้อ “นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการจัดการข้อมูลเพื่อการสร้างขีดความสามารถด้านการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม” โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญจากหลายภาคส่วนร่วมแบ่งปันประสบการณ์และแลกเปลี่ยนมุมมอง เพื่อหาแนวทางในการนำพา SMEs ของประเทศไทยไปสู่เป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงประกอบด้วย ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน), คุณธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด, คุณสุทธิพงศ์ กนกากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กีเดี้ยนวัน จำกัด, ดร.นันทมล ลิมป์พิทักษ์พงศ์ สถาบันสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน, คุณอานนท์ ตั้งสถิตพร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อโยเดีย จำกัด และ ดร.ณัฐวิญญ์ ชวเลิศพรศิยา ผู้ดำเนินรายการ

 

สามารถติดตามรับชมงานแถลงข่าวและเสวนาย้อนหลังได้ที่ https://www.facebook.com/ChulaEngineering และผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วม “โครงการ Chula Learn-Do-Share Plus” สามารถสมัครได้ที่ Facebook: Carbon Institute for Sustainability – CBiS ตั้งแต่วันนี้ ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ contact@cbis.institute

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

%d bloggers like this: